“พิชัย” ถก “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” รับมือมาตรการสหรัฐฯ ยังไร้ข้อสรุป – ไม่แตะนโยบายดอกเบี้ย

“พิชัย ชุณหวชิร” เผยหารือ “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” เห็นพ้องความเสี่ยงสูงจากมาตรการการค้าสหรัฐฯ ชี้ต้องติดตามใกล้ชิด ทั้งตลาดทุน-ตลาดเงิน “ส่งออก-นำเข้า” กระทบเป็นวงกว้าง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 เม.ย.68) เวลา 16:00 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาการค้าระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา เปิดเผยภายหลังจากการหารือร่วมกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

พิชัย ชุณหวชิร

โดยนายพิชัย ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมาตรการด้านการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งยังคงมีความไม่แน่นอนสูง และอาจส่งผลกระทบเป็นต่อระบบเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ

นายพิชัย ยังกล่าวอีกว่า เรากำลังเผชิญสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากทุกวัน ไม่มีใครบอกได้ชัดเจนว่าจะไปจบตรงไหน จึงต้องเตรียมพร้อมในหลายกรณี รวมถึงผลกระทบที่ไม่ได้จำกัดแค่กับสหรัฐฯ แต่ลามไปถึงประเทศคู่ค้าอื่นๆ ของไทยอีกด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและ ธปท. ประเมินว่า สัญญาณจากฝั่งสหรัฐฯ ทั้งในเชิง Tariffs และ Non-tariffs กำลังเริ่มส่งผลต่อเสถียรภาพตลาดเงิน ตลาดทุนไทย โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน พันธบัตร และกระแสเงินทุนที่มีความผันผวนสูงขึ้น

นายพิชัย ย้ำอีกว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเริ่มสะเทือนภาคการส่งออกของไทย ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่ภาคการผลิตและนำเข้า ก็ต้องเผชิญความไม่แน่นอนด้านต้นทุนและคำสั่งซื้อ ทำให้ผู้ประกอบการต้องบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน และภาระหนี้สินให้รัดกุม

“สิ่งที่เราทำตอนนี้คือการทำงานใกล้ชิด แลกเปลี่ยนข้อมูลกันให้มากขึ้น และต้องเตรียมมาตรการให้ยืดหยุ่นรองรับทุกความเป็นไปได้ แม้แต่ในกรณีรุนแรง” นายพิชัย กล่าว

ส่วนในด้านการลงทุน นายพิชัย ระบุว่า นักลงทุนแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่เร่งลงทุนเพื่อฉวยโอกาสในช่วงความไม่แน่นอน และกลุ่มที่ชะลอลงทุนเพื่อรอดูทิศทาง ทั้งนี้ส่วนใหญ่ที่ลงทุนแล้ว ภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ยังถือเป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลต้องจับตา

เมื่อถามถึงระดับสภาพคล่องในระบบ นายพิชัย ยืนยันว่า ประเทศไทยยังมีสภาพคล่องที่มากพอควร

“เราเห็นปัญหาเหมือนกัน เราตามปัญหาเหมือนกัน แต่ว่าเราเห็นเรื่องหนึ่งเหมือนกันคือ ความไม่แน่นอน ที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าจะไปทางไหน พอคิดเรื่องนี้ก็อาจไม่สมเหตุสมผลเลย เพราะขัดกันหลายเรื่อง บางเรื่องขัดกันเอง เราก็ลองคิดว่า อาจจะไม่ใช่ทางเลือกนี้มั้ง เดี๋ยวมันจะจบยังไง ดังนั้นสิ่งที่มาไม่มีใครกล้าที่จะบอกว่าสุดท้ายจะจบยังไง” หัวหน้าคณะเจรจาฯ กล่าวย้ำถึงการหารือกับผู้ว่าแบงก์ชาติ

ส่วนเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย นายพิชัย กล่าวว่า ปกติแล้วเราจะไม่พูดถึงเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย โดยตนเข้าใจว่า ธปท. จะต้องติดตามมอนิเตอร์ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เชื่อว่า กนง. ต้องติดตามมอนิเตอร์เรื่อง ๆ ต่างด้วยว่าเป็นอย่างไรเพื่อมาประกอบการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป จากปัจจุบันอยู่ที่ 2%

เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ

นายพิชัย ยังระบุว่า อันนี้เป็นผลลัพธ์ของการเริ่มต้นมาตรการการกำหนดนำเข้าและส่งออก tariffs และ non- tariffs  ที่จะทำให้การค้าขายสมดุล แต่มีผลกระทบทางตรงและทางอ้อมมาสู่ตลาดเงินตลาดทุน เรารับรู้ไว้ว่านี้เป็นผลกระทบต่อการตัดสินใจต่าง ๆ ดังนั้นการรับรู้ไว้ว่าการตัดสินนี้จะกระทบอะไรบ้าง การเจรจาไม่ได้เข้าไปเจรจาเรื่องสภาพตลาดเงินตลาดทุน ในประเทศ ทุกคนต้องดูแลพอร์ตของตัวเอง

เมื่อถูกถามถึงการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้จะสัมพันธ์กันไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อ ส่วนเรื่องดอกเบี้ย ปกติโดยทั่วไปจะสัมพันธ์กับเงินเฟ้อ วันนี้มีเหตุการณ์หลัก ๆ อยู่ คงต้องนำมาดูประกอบว่าจะมีเทรนด์ไปทางไหน ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ไม่มีประเทศไหนอยากให้แทรกแซง อยากให้เป็นไปตามกลไกตลาด

ส่วนการหารือกับประเทศในอาเซียนนั้น นายพิชัย เปิดเผยว่า การเดินทางไปเจรจารอบแรกกับสหรัฐฯ จะเน้นการแก้ปัญหาของเราก่อน เพราะปัญหาแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ส่วนระหว่างอาเซียนด้วยกันก็จะมีการแลกเปลี่ยนกัน

Back to top button