SET อ่อนตัวตามหุ้นกลุ่มพลังงานชู 14 หุ้น Laggard กำไรโต-ปันผลสูง
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนอิงทางลง ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงกว่า 4% เมื่อคืนนี้ ขณะที่การประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนยังคงเป็นปัจจัยเดียวที่คาดว่าจะช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ร่วงลงไปมาก สำหรับหุ้นเด่นเลือก CPN, QH, INTUCH, KTB, AMATA, CPN, THANI, HMPRO, RATCH, EA, TCAP, AAV, LIT, VGI
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.21 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.71 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตราคาพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงไปกว่า 4% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องจากข่าวที่ว่าซาอุดิอาระเบียยืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะลดการผลิตน้ำมัน
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนอิงทางลง ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงกว่า 4% เมื่อคืนนี้ ขณะที่การประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนยังคงเป็นปัจจัยเดียวที่คาดว่าจะช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ร่วงลงไปมาก
สำหรับหุ้นเด่นเลือก CPN, QH, INTUCH, KTB, AMATA, CPN, THANI, HMPRO, RATCH, EA, TCAP, AAV, LIT, VGI
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในวันนี้น่าจะอยู่ในกรอบค่อนข้างแคบ ดัชนีอาจจะย่อตัวลงมากก่อน ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับตัวลง หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 4% เมื่อคืนนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
สำหรับราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงมากอาจจะกดดันต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานของตลาดหุ้นไทยด้วย แต่การที่ตลาดยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้ามาต่อเนื่อง และการทยอยประกาศผลประกอบการและการประกาศจ่ายปันผลของบจ. น่าจะช่วยประคองดัชนีไม่ให้ปรับลดลงมากนัก
พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,313/1,310 และแนวต่านที่ 1,332/1,340 จุด
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.พ.) มีมุมมองเป็นกลางและคาดว่า SET น่าจะผันผวนอยู่ในกรอบแคบ แต่อาจเกิดแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นมา 2 วันติดต่อกัน น้ำหนักการลงทุนจะยังอยู่ที่หุ้นกลุ่มน้ำมันที่อาจจะปรับลงตามราคาน้ำมันดิบแต่ไม่น่ามาก นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องติดตามโค้งสุดท้ายของรายงานผลประกอบการ 4Q15 ของบริษัทจดทะเบียน
อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุนนำ เว้นแต่ภาวะตลาดเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น ภาพการลงทุนในระยะยาวยังไม่สดใส ขณะเดียวกัน downside risk ก็จำกัด เนื่องจากตลาดรับรู้ความเสี่ยงเดิมๆค่อนข้างมากแล้วดังนั้นจึงยังคงแนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว
กลยุทธ์วันนี้ : Selective BUY/ซื้อเมื่ออ่อนตัว
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : EA (กำไรปีนี้โต 100% yoy ทำให้เป็นหุ้น Growth and Defensive Stock ตัวจริง), TCAP (เป้า 42, ปันผล 1.10 บาท และได้ข่าวเชิงบวกจากสโกเทียแบงก์เปิดประมูลขายหุ้นแบงก์ธนชาต 2Q16)
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.พ.) ซาอุฯ มองการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันยากที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ กดดันราคาน้ำมัน Brent ปรับลดลง -4.1% เมื่อคืนนี้ และจะเป็นปัจจัยกดดัน PTT ที่ราคาเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 271 บาท อย่างไรก็ตามประเมิน Downside Risk ของ SET จากการอ่อนตัวกลุ่มพลังงานไม่มากนักที่ 1,308-1,313 จุด ขณะที่การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มของ ECB และ BOJ ในช่วงกลางเดือน มี.ค.คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุน ตลาดหุ้นโลก และ SET ต่อไป
ประเมินราคาน้ำมันอ่อนตัว ประกอบกับกลุ่มพลังงานอย่าง PTT เข้าใกล้แนวต้าน กดดัน SET วันนี้ ด้วยแนวรับ 1,308-1,313 จุด แนะนำ “เลือกซื้อ” กลุ่มหุ้น:-
1) ราคาหุ้น Laggard ตลาดตั้งแต่ต้นปี CPN (คาดกำไร 4Q15 ที่ 2.1 พันล้าน +21% y-y เปิดสาขาบางใหญ่ ภูเก็ต ระยอง ปิ่นเกล่า) และ QH (คาดกำไร 4Q ที่ 1.2 พันล้าน +81% y-y ปันผล 0.08 บาท หรือ 3.5%)
2) ปันผลสูง ราคาหุ้นยังขึ้นไม่มากในสัปดาห์ที่ผ่านมา INTUCH KTB
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.พ.) ภาวะการซื้อขายวานนี้ดัชนียังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน , ธนาคาร และสื่อสาร หลังจากบริษัทจดทะเบียนเริ่มทยอยประกาศงบปี และจ่ายเงินปันผล ประเด็นการประชุม ครม. วานนี้อนุมัติวงเงินช่วยเหลือเกษตรกร – SME อีก 9.3 หมื่น ลบ. เพื่อต้องการฟื้นกำลังซื้อกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับฐานโดยวางแนวรับที่ระดับ 1,313 จุด หากยืนได้ทิศทางตลาดยังคงมีโอกาสฟื้นตัวสู่แนวต้านที่ระดับ 1.340 – 1,350 จุด ระยะสั้งแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น AMATA , CPN , THANI
บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.พ.) เข้าสู่ช่วงพักตัว แต่ความเสี่ยงยังจำกัด คาดลงไม่แรงแต่หุ้นพลังงานจะชะลอตัว ตามราคาน้ำมัน WTi ที่ลง 6% หลังรมต.น้ำมันของซาอุชี้ว่าการลดปริมาณผลิตน้ำมันจะเกิดได้ยากมาก และตลาดควรคาดหวังเพียงการคงปริมาณผลิตเท่านั้น
ทั้งนี้ SET ได้ทดสอบเป้าไตรมาส 1/59 ที่ 1330 จุด และซื้อขาย forword PE59 ประมาณ 14 เท่า และ curreny PE band ประมาณ 17 เท่า จึงปรับมุมองระยะสั้นของ SET จากขึ้น เป็นแกว่งไซด์เวย์ อย่างไรก็ดี เงินทุนต่างชาติที่ยังดูดี และเงินปันผลของหุ้นกลุ่มหลัก จะยังจำกัดความเสี่ยงของตลาดโดยรวม คงแนะนำเก็งกำไรเร็วและติดตามปัจจัยเศรษฐกิจไทยสัปดาห์นี้ หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร AAV-LIT สะสม VGI
บล.ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.พ.) ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้ง SET ก็เช่นกัน หากเกิดความผันผวนของราคาน้ำมัน ดัชนีจะผันผวนตาม แต่จะรุนแรงหรือไม่ ยังต้องดูประเด็นอื่นๆประกอบด้วย อย่างทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรปและจีน และปฎิกริยาของการตอบสนองต่อการลงประชามติของอังกฤษ เรื่องจะออกจากกลุ่มยูโร
ส่วนการปรับตัวลงของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้มาจากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. ลดลงต่ำสุดในรอบ 6 ปีและแรงขายหุ้นพลังงาน สภาพที่จะเกิดความผันผวนของราคาน้ำมันรอบใหม่และส่งผลต่อแรงขายหุ้นพลังงาน
มองว่าหลังจากนี้ตลาดจะกลับมาผันผวนอีก โดยมีตัวเร่ง คือตัวเลขเศรษฐกิจและค่าเงินปอนด์ วันนี้มองดัชนี SET จะผันผวนตามดัชนีในภูมิภาคจากแรงขายหุ้นพลังงาน โดยมองแนวต้านที่ 1330 -1335 จุด ส่วนแนวรับที่ 1318-1314 จุด วันนี้แนะเก็งกำไร HMPRO และ RATCH