SET บ่ายแกว่งแคบทั้งแดนบวก-ลบแนะกลุ่มโรงพยาบาลแข็งกว่าตลาดฯ
โบรกฯคาดแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ (1 มี.ค.) แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งตัวแคบทั้งในแดนบวก-ลบเช่นเดิม พร้อมให้แนวรับ 1,320 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (1 มี.ค.) แกว่งแคบทั้งบวก-ลบ ปัจจัยหลักจากจีนหลังตัวเลข PMI ภาคการผลิต ก.พ.ต่ำสุดในรอบ 51 เดือน ทำให้ตลาดฯกลับมากังวลอีกครั้ง บ่ายนี้คาดตลาดฯแกว่งแคบต่อ ให้แนวรับ 1,320 แนวต้าน 1,340 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวแคบทั้งแดนบวก-ลบ ปัจจัยหลักจากจีน หลังจากผ่อนคลายนโยบายการเงินวานนี้ด้วยการลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ แต่ก็เป็นข่าวดีในระยะสั้น เพราะเช้านี้ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนในเดือน ก.พ.ออกมาต่ำสุดในรอบ 51 เดือน ทำให้ตลาดฯกลับมากังวลเศรษฐกิจจีนในช่วงถัดไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ตลาดฯก็ยังมีการตีความว่าท่าทีของแบงก์ชาติจีนจากที่มีการลดสัดส่วนการสำรองของธนาคารพาณิชย์ ทำให้ยังมีความคาดหวังว่าจีนอาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมได้ ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จึงอยู่ในแดนบวกแม่ไม่มาก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งตัวแคบทั้งในแดนบวก-ลบเช่นเดิม พร้อมให้แนวรับ 1,320 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 29 ก.พ.) แม้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้ อย่างไรก็ดีเนื่องจาก SET เริ่มมีสัญญาณ “พักฐาน” ทางเทคนิคแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้ประเมิน SET จะเคลื่อนไหว Sideways สร้างฐานในกรอบ 1,320-1,340 จุด ไปก่อน หรืออาจลงไปสร้างฐานที่ 1,307-1,313 จุด ก็ได้ อย่างไรก็ดียังมีมุมมองเชิงบวกในระยะสัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้ ที่คาดว่า ECB และ BOJ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการ “เพิ่ม” วงเงิน QE และ “ลด” อัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
สำหรับหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลดูดีกว่าตลาดโดยรวมในช่วงที่ SET “พักฐาน” โดยแนะนำ “ซื้อ” CHG ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 3.20 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก การเติบโตของกำไรมีความชัดเจน โดยคาดการณ์กำไรเติบโต 26-22% ในปี 59-60 จากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง และการเปิดการรักษาโรคเฉพาะทาง โดยเฉพาะการผ่าตัดหัวใจเพิ่มรายได้ และจำนวนผู้ป่วย และ PEG ที่ 1.8x ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลอื่น ขณะที่ทางเทคนิคทะลุ Downtrend มีเป้าหมายที่ 2.72 บาท
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 927.50 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 907.92 ล้านบาท ปิดที่ 44.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 905.28 ล้านบาท ปิดที่ 7.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 586.52 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 380.76 ล้านบาท ปิดที่ 400.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท