SET บ่ายชะลอแรงบวกหลังขึ้นแรง 3 วันติดแนะจับตาหุ้นขนาดกลางมากขึ้น ชู 6 บจ.เด่น
โบรกฯคาดแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ (3 มี.ค.) อาจจะชะลอลงบ้างหลังจากขึ้นไปแรง ให้แนวต้านที่ระดับ 1,400 จุด ทำให้ต้องเริ่มดูกลุ่มหุ้นขนาดกลางที่มีสัญญาณ"บวก"ทางเทคนิค และมีพื้นฐานดีมากขึ้น
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (3 มี.ค.) เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก และมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะกลุ่มสื่อสาร แบงก์ และพลังงาน โดยมองว่าได้รับแรงหนุนจากสภาพคล่องของโลกสูง-Bond Yield ต่ำทั่วโลก อีกทั้งตลาดฯคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ECB วันที่ 10 มี.ค.และประชุมเฟดกลางเดือนนี้ยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย คาดตลาดฯช่วงบ่ายอาจจะชะลอลงบ้างหลังจากขึ้นไปแรง 3 วันติด ให้แนวต้านที่ระดับ 1,400 ทำให้ต้องเริ่มดูกลุ่มหุ้นขนาดกลางที่มีสัญญาณ”บวก”ทางเทคนิค และมีพื้นฐานดีมากขึ้น
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง จากสภาพคล่องของโลกที่ยังค่อนข้างสูง ประกอบกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในระดับต่ำทั่วโลก ทำให้เกิดการปรับพอร์ตเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ช่วงก่อนหน้านี้เม็ดเงินไหลเข้ามาในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT),กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ก่อนจะเริ่มเข้ามาลงทุนในหุ้นปันผลและหุ้นขนาดใหญ่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไม่ได้เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก)และนอนโอเปก แต่หากผลออกมาไม่มีมาตรการใดเป็นรูปธรรมก็อาจจะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานได้
รวมถึงหุ้นในกลุ่มสื่อสารที่ดีดตัวขึ้นจากความคาดหวังเชิงบวกต่อกรณีกลุ่มบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS อาจไม่มีความพร้อมในการจ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ก็จะทำให้ผู้ประกอบการมือถือรายที่ 4 ไม่เกิดขึ้น ทำให้การแข่งขันลดลง และยังมีใบอนุญาตว่างอีก 1 ใบ ทำให้เกิดการเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสารด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องระมัดระวังการลงทุนในระยะหลังจากนี้ เพราะการที่ดัชนีดีดตัวขึ้นมามากจากความคาดหวังในด้านต่างๆ แต่หากออกมาไม่เป็นไปตามคาดหวังก็อาจจะทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไร โดยเฉพาะบริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1,400 จุด เพราะในช่วงที่ผ่านมากำไรของ บจ.ในปี 58 ยังลดลงต่อเนื่องจากปี 57 ด้วย
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่อง หลังจากดัชนียืนเหนือเส้น 200 วันที่ระดับ 1,372 จุดได้ทำให้ยังเห็นเป็นสัญญาณบวก แต่อาจจะเริ่มชะลอตัวลงได้บ้างหลังดัชนีดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยมองแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,400 จุด และแนวรับที่ 1,357 และ 1,350 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 3 มี.ค.) ว่า การปรับสูงขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ AOT และกลุ่มสื่อสาร หนุน SET ไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องวันนี้ ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บริเวณ 1,372 จุด และคาดว่าจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นไปที่แนวต้านสำคัญระยะสัปดาห์บริเวณ 1,400 จุด
แม้หุ้นขนาดใหญ่ จะยังเป็น “กลุ่มนำ” ตลาดต่อไปตลอดช่วงเช้าวันนี้ แต่เนื่องจากการปรับสูงขึ้นแรงตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทำให้ต้องเริ่มดูกลุ่มหุ้นขนาดกลางที่มีสัญญาณ “บวก” ทางเทคนิค และมีพื้นฐานดี มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น DTAC, CPN (แนวต้าน 54-55 บาท), CHG, TMB, GL และ IRPC (ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 6.70 บาท)
สรุป 5 หลักหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,922.71 ล้านบาท ปิดที่ 179.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,064.95 ล้านบาท ปิดที่ 3.12 บาท ลดลง 0.06 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,940.62 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,460.52 ล้านบาท ปิดที่ 7.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,329.62 ล้านบาท ปิดที่ 22.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท