SET บวกต่อ-ชะลอความร้อนแรงลงชู 16 พื้นฐานแกร่ง-ยัง Underperform
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรที่หนักขึ้นในกลุ่ม พลังงาน ธนาคารและสื่อสาร เนื่องจากวันนี้แรงหนุนจากดัชนีต่างประเทศและราคาน้ำมันไม่เป็นใจ ทั้งนี้คาดว่าหุ้นใหญ่ที่เป็นกลุ่มนำตลาดมาก่อนหน้ามีโอกาสพักฐานมากขึ้น ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ Underperform ตลาดคาดว่าจะถูกสลับซื้อ
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.39 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน ด้านนักลงทุนจับตาดูข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐ ที่จะมีการเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย รวมถึงการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันเสาร์นี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรที่หนักขึ้นในกลุ่ม พลังงาน ธนาคารและสื่อสาร เนื่องจากวันนี้แรงหนุนจากดัชนีต่างประเทศและราคาน้ำมันไม่เป็นใจ ทั้งนี้คาดว่าหุ้นใหญ่ที่เป็นกลุ่มนำตลาดมาก่อนหน้ามีโอกาสพักฐานมากขึ้น ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ Underperform ตลาดคาดว่าจะถูกสลับซื้อ
หุ้นเด่นเลือก VIBHA-COM7-STEC-KTB-BAY-SCC-CPF-DTAC-LH-UNIQ-CK-DTAC-DELTA-HANA-MC และIRPC
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (4 มี.ค.) คาดว่า SET วันนี้แกว่ง/ขึ้นแคบๆ ชะลอความร้อนแรง โดยตลาดรอดูตัวเลขจ้างงานสหรัฐคืนนี้ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นกลาง ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่นดัชนี ISM ภาคบริการ คำสั่งซื้อภาคโรงงาน และยอดขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ และตลาดน้ำมันทรงตัวแคบๆ รอดูข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรึงปริมาณการผลิต คาดหุ้นใหญ่จะเริ่มทรงตัวและจะเห็นการหมุนมาเล่นหุ้นขนาดเล็กมากขึ้น
ทั้งนี้แนะเก็งกำไรเร็วต่อไป ส่วนสัปดาห์หน้า ปัจจัยสำคัญคือผลประชุม ECB วันที่ 10 มี.ค.นี้ (คาด ECB จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นทางการเงิน)
หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไรหุ้นเล็ก VIBHA,COM7 /หุ้นใหญ่ STEC
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (4 มี.ค.) ว่าทิศทางตลาดยังอยู่ในแนวบวกจาก Fund Flows โดยวางเป้าหมายดัชนีที่ 1,400 จุด โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 1,365 – 1,370 จุด แนะนำซื้อหุ้น Big Cap. เช่น KTB , BAY ,SCC ,CPF ,IRPC ,DTAC ,LH
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (4 มี.ค.) ว่าประเด็นที่อาจจะเขย่าตลาดได้อีก ตอนนี้ คือ การประชุม ECB ในวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งนักลงทุนอาจผิดหวังกับมาตรการกระตุ้นหากออกมาตามคาด และการประชุมกลุ่ม OPEC อาจไม่มีเนื้อหาใหม่ๆ ส่วนในแง่ทางเทคนิค ตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไปจนดัชนี SET ขึ้นไปติดค่า +2SD ซึ่งโดยปกติจะขึ้นต่อได้ยากหากไม่มีแรงซื้อหนักๆเข้ามา
อย่างไรก็ตามหากวัดจากสัดส่วนการขึ้นของตลาดหุ้นไทยเทียบภูมิภาคหรือ MSCI Thailand/MSCI Asia ex Japan ในรูปค่าเงินดอลลาร์ จะพบว่าการดีดขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยคล้ายๆ ปี 2011 เพราะจุดต่ำสุดของปีนี้ก็ลงไปเท่ากับปี 2011 ส่วนสัดส่วนการขึ้นก็น่าจะอยู่เดียวกับปี 2011
โดยวันนี้มองดัชนีเปิดขึ้นมาจะดีดตัวขึ้นต่อ แต่จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรที่หนักขึ้นในกลุ่ม พลังงาน ธนาคารและสื่อสาร เนื่องจากวันนี้แรงหนุนจากดัชนีต่างประเทศและราคาน้ำมันไม่เป็นใจ หลังตัวเลขกิจกรรมทางธุรกิจของภาคบริการของสหรัฐและยูโรประจำเดือน ก.พ.หดตัว โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1,385-1,390 จุด แนวรับที่ 1,370-1,365 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (4 มี.ค.) ว่า SET มีโอกาส “พักฐาน” ระยะสั้นวันนี้ จาก 1) การปรับสูงขึ้นแรงของ SET ติดต่อกันตั้งแต่กลางเดือน ก.พ.เกือบ 7% หรือ 80 จุดทำให้ SET อยู่ในภาวะ Overbought ระยะสั้น และ 2) นักลงทุนชะลอการซื้อ รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ และอัตราการว่างงานคืนนี้ แต่การ “พักฐาน” จะเป็นจังหวะ “ซื้อ” โดยเฉพาะที่แนวรับ 1,360 +/- จุด คงเป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,385/1,400 จุด ต่อไป
ทั้งนี้หุ้นใหญ่ที่เป็น “กลุ่มนำ” มาก่อนหน้า มีโอกาสพักฐานมากขึ้น ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ Underperform ตลาดคาดว่าจะถูกสลับ “ซื้อ” ในช่วงการพักฐานของ SET โดยมีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่
1) รับเหมาฯ ปรับลดลงมากเกินไป: “ซื้อ” UNIQ-CK
2) หุ้น Laggard Plays ปันผลสูง: “ซื้อ” DTAC-DELTA-HANA (XD 7 มี.ค. 2.9% คาดปันผลปี 2016 > 7%) MC (ปันผล 2016 > 6%) และ IRPC (ปันผล 2016 5.8% PBV 1.1x)