เก็ง 18 บจ. มีลุ้น Outperform ตลาดSET เสี่ยงพักฐานหลังไม่ผ่าน 1,400

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.27 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.10 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายในวันนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ และมีโอกาสพักฐานระยะสั้นหลังไม่ผ่าน 1,400 จุด การลงทุนเน้นกลุ่มที่มีโอกาส Outperform ตลาด อย่างกลุ่ม Laggard และ Turnaround หุ้นเด่นเลือก CK-UNIQ-CENTEL-MINT-HANA-ROBINS-SGP-IRPC-SUPER-SCB-BDMS-AP-LIT-DCC-HANA-CPALL-EPG และ CPR

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (15 มี.ค.) ว่า SET ยังไม่สามารถยืนได้เหนือแนวต้านสำคัญ 1,400 จุด ได้ พร้อมกับ 1) ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังกังวลอิหร่านไม่ร่วมเจรจาควบคุมการผลิตน้ำมันกับ OPEC จนกว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเป็น 4 ล้านบาร์เรล/วัน (ปัจจุบัน 2 ล้านบาร์เรล/วัน) กดดันกลุ่มพลังงาน และ 2) SET อยู่ในภาวะ Overbought ทางเทคนิค หลังปรับสูงขึ้น 180 จุดในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ยังมองโอกาสในการ “พักฐาน” ระยะสั้นโดยเฉพาะถ้า SET ปิดตลาดต่ำกว่า 1,385 จุด

แม้ยังไม่มีสัญญาณ “พักฐาน” ชัดเจน แต่ยังกังวลอยู่จึงแนะนำกำหนด Trailing Stop ที่ 1,385 จุด เป็นจุด “ลดพอร์ต” หรือ “ล็อกกำไร” ต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นที่คาดว่ายังมีโอกาส Outperform ตลาด ได้แก่

1) Laggard Plays อย่างรับเหมาฯ โรงแรม: CK UNIQ CENTEL MINT

2) หุ้นราคาต่ำกว่า NAV มากอย่าง QH และ Turnaround Play อย่าง HANA ROBINS SGP IRPC

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (15 มี.ค.) ว่า แม้ตลาดหุ้นจะถูกขับด้วยเงินลงทุนจากต่างประเทศที่กำลังไหลเข้า แต่การที่ดัชนีฯปรับตัวขึ้นมาในรอบนี้ ประมาณ 12% ความแรงจะเริ่มชะลอลง กรอบการเคลื่อนไหวจะเริ่มแคบและผันผวนมากขึ้นจากการขายทำกำไรที่ทยอยเข้ามาในตลาด

การลงทุนในวันนี้ เรายังแนะนำให้เน้นที่หุ้นกลาง-ใหญ่ที่เป็นกลุ่มนำตลาดหรือนักลงทุนต่างประเทศลงทุน หรือหุ้นที่มีการเติบโตสูง โดยปรับกรอบเวลาลงทุนเป็นเล่นสั้น ในลักษณะ “ลงซื้อ ขึ้นขาย” สำหรับหุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจในวันนี้ อาทิ SCB, BDMS, AP, LIT

Stock in Focus: DCC (ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 4.27 บาท)

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (15 มี.ค.) ว่า ดัชนีตลาดหุ้นใหญ่ๆ อย่างสหรัฐที่เป็นตลาดกระทิงมา 7 ปีเต็ม มองว่าในช่วง 1 ถึง 2 เดือนข้างหน้า น่าจะปรับตัวลงแรง จากการขาดปัจจัยหนุน FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยและกำไรในไตรมาส 1/16 ยังออกมาไม่ดี นอกนั้นจะเป็นผลทางสถิติ กล่าวคือ รอบที่ตลาดหุ้นสหรัฐเป็นตลาดกระทิง 10 รอบใหญ่จากปี 1957 ถึงปัจจุบัน เมื่อดัชนีขึ้นสูงสุดหลังจากนั้นประมาณ 10-12 เดือนดัชนีจะปรับตัวลงลึกมากกกว่า 20% (ใน 9 ครั้งเกิดสัญญาณแบบนี้ถึง 7 ครั้ง) โดยรอบล่าสุดดัชนี S&P ขึ้นสูงสุดในเดือน พ.ค. 2015 ซึ่งตอนนี้กินเวลาไปแล้ว 10 เดือน

ดังนั้นดัชนีในช่วง เม.ย. ถึง พ.ค. พึงต้องระวัง ช่วงหลังการประชุม FOMC ถึงปลายเดือน มี.ค. มองว่าดัชนี SET ค่อยๆ ซึมลงหลังตลาดไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ ผลจากซึมลงของราคาน้ำมันและตลาดขึ้นไปเล่นในค่า P/E ที่สูง วันนี้คาดดัชนี SET จะแกว่งในกรอบแคบและคงจะพยายามขึ้นไปทดสอบ 1,400 จุด แต่คงยืนไม่ได้ โดยมีแนวต้านที่ 1402-1407 จุด ส่วนแนวรับที่ 1387-1382 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร HANA และ CPALL

Themes play: EPG แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 16.75 บาท

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (15 มี.ค.) มีมุมมองเป็นกลางถึงบวกต่อตลาดหุ้นวันนี้ SET จะ sideways ตามตลาดหุ้นภูมิภาค อย่างไรก็ตาม Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าต่อเนื่องจะช่วยหนุน SET ยืนอยู่ในกรอบ 1,370-1,400 จุด และหาก SET ปรับขึ้นแรงกว่าปกติแนะนำให้ Sell into Strength วันนี้เชื่อว่าหุ้นในกลุ่มธนาคารจะยังเป็นกลุ่มนำตลาด นอกจากนี้เช้านี้นักลงทุนต้องติดตามผลประชุม BOJ ซึ่งตลาดคาดว่าน่าจะคงดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ 0.1% หากเป็นไปตามคาดตลาดหุ้นน่าจะตอบรับในเชิงบวก แต่หากมีการปรับลดดอกเบี้ยติดลบมากขึ้นอาจเป็นปัจจัยลบระยะสั้น

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/สะสมหุ้นขนาดกลางและเล็ก/ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: SCB

ขณะที่คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค กราฟล่าสุดที่ตลาดทรงตัวเป็นแพทเทินที่ทรงตัวเหนือแนวเส้น MA10 โดยสัญญาณแบบ breakout ยังดีอยู่หลังจากวอลุ่มแผ่วลงเมื่อวานนี้ การแกว่งตัว sideway ในรอบ 7 วันเป็นรูปแบบเตรียม breakout ทำให้ภาพ SET ยังมี momentum ขึ้นต่อทดสอบแนวต้าน 1400-1420 จุดในระยะใกล้นี้ แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,380-1,400

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร SUPER และ CPR