โบรกฯชี้ 5 หุ้นเด่น! แกร่งกว่าตลาดSET บ่ายไซด์เวย์-รอผลประชุมเฟด
โบรกฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway รอผลประชุม FOMC ก่อนว่าจะออกมาในทิศทางไหน แต่คาดคงอัตราดอกเบี้ย และเชื่อว่ายังมี Fund Flow ไหลเข้ามาในตลาดเอเชียต่อ ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ บ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,372-1,366 แนวต้าน 1,392-1,397 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า ( 16 มี.ค.) แกว่งตัวไซด์เวย์ เพื่อรอผลประชุมเฟดว่าจะออกมาในทิศทางไหน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก และลบสลับกัน
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย คาดว่าตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,372-1,366 จุด ส่วนแนวต้าน 1,392-1,397 จุด ขณะที่ โบรกฯแนะนำกลยุทธ์ “Selective” ในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่แข็งแกร่งกว่าตลาดได้แก่ CHG-HANA-DELTA-KCE และ VGI
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้เป็นภาพของการแกว่ง Sideway เพื่อรอดูผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ก่อนว่าจะออกมาในทิศทางไหน
โดยตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และยังคาดว่าจะมี Fund Flow ที่ไหลเข้ามาได้ทำให้ตลาดในเอเชียค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก และลบสลับกันไป นอกจากนี้ ยังคงต้องรอดูเรื่อง JAS ว่าจะสามารถจ่ายค่าใบอนุญาต 4G ได้หรือไม่ เพราะมีผลต่อการแข่งขันทางธุรกิจ 4G
แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,372-1,366 จุด ส่วนแนวต้าน 1,392-1,397 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 16 มี.ค.) SET อาจมีจังหวะ Rebound ระยะสั้นที่กรอบแนวรับระหว่างวันบริเวณ 1,372 จุด อย่างไรก็ตามการ Rebound จะเป็นเพียงการฟื้นตัวระยะสั้นเท่านั้น และเป็นเพียงจังหวะในการ “เก็งกำไร” เท่านั้น ซึ่งการเก็งกำไรควรเน้นไปในกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด (Outperform) อย่างกลุ่มโรงพยาบาล (CHG) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA-DELTA และ KCE) ขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะธนาคารมีแนวโน้มอ่อนแอกว่าตลาด (Underperform) ชัดเจน
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการ Rebound ระหว่างวันที่แนวรับ 1,372 จุด แต่การปรับลดลงต่ำกว่า 1,375 จุด เมื่อวานนี้เป็นสัญญาณการ “พักฐาน” ของ SET ระยะสัปดาห์ ด้วยเป้าหมายหลักบริเวณ 1,340-1,350 จุด ทำให้แนะนำ “ลดพอร์ต” ต่อเนื่อง
โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร พลังงาน และสื่อสารมีแนวโน้มอ่อนแอกว่าตลาดในช่วงการพักฐาน ขณะที่ฝ่ายวิจัย แนะนำกลยุทธ์ “Selective” ในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่แข็งแกร่งกว่าตลาดได้แก่ CHG-HANA-DELTA-KCE และ VGI
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,663.85 ล้านบาท ปิดที่ 173.50 บาท ลดลง 8.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,292.93 ล้านบาท ปิดที่ 166.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,346.99 ล้านบาท ปิดที่ 402.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,189.56 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 996.17 ล้านบาท ปิดที่ 44.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์