SET บ่ายผันผวน ระวังแรงขายทำกำไรชู KTC เด่นสุด พีอีต่ำ-กำไรโต-ปันผลดี

โบรกฯคาดแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ (17 มี.ค.) มีโอกาสที่จะผันผวนได้ ให้ระวังแรงขายทำกำไร เหตุ SET ยังไม่ถือว่าถูก แม้ปัจจุบันจะลงมาต่ำกว่าระดับ 1,400 เพราะปัจจุบันยังเทรด P/E 14.8 เท่า ชู KTC เด่น


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (17 มี.ค.) ปรับขึ้นตามปัจจัยภายนอก จากราคาน้ำมันที่พุ่งแรง-ผลประชุมเฟดที่เป็นบวก ทั้งในเรื่องคงอัตราดอกเบี้ย และลดโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลงเป็น 2 ครั้ง จากเดิม 4 ครั้ง แต่เห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดยังเข้ามาในตลาดไม่เท่าไร และในระหว่างเทรดลดช่วงบวกลงคล้ายกับตลาดภูมิภาคเช้านี้ ทำให้มองตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway ไปก่อน บ่ายนี้ตลาดมีโอกาสที่จะผันผวนได้ ให้ระวังแรงขายทำกำไร แม้ปัจจุบันจะลงมาต่ำกว่าระดับ 1,400 เนื่องจากปัจจุบันยังเทรด P/E 14.8 เท่า

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามปัจจัยภายนอก จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแรง และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ และยังลดโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลงด้วยจาก 4 ครั้งเป็น 2 ครั้ง ซึ่งก็ทำให้ตลาดเกิด Bullish

แต่จะเห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดไม่ค่อยเข้ามาในตลาดฯเท่าไร และในระหว่างเทรดตลาดฯก็ลดช่วงบวกลงด้วย ซึ่งก็คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ได้ลดช่วงบวกลงในเช้านี้ ทำให้มองว่าตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯมีโอกาสที่จะผันผวนได้ ให้ระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจาก SET ก็ยังไม่ถือว่าถูกมาก แม้ว่าจะอ่อนตัวลงจากระดับ 1,400 จุดลงมาแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังเทรดด้วย P/E แถว 14.8 เท่า พร้อมให้แนวรับ 1,365-1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,390-1400 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 17 มี.ค.) ว่า การฟื้นตัวของ SET ยังมองการปรับสูงขึ้นเป็นเพียงการ Rebound โดยมีแนวต้านที่ 1,388-1,392 จุด และเป็นเพียงจังหวะ Trading เท่านั้น ขณะที่ระยะสัปดาห์ยังมีความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” ด้วยแนวรับ 1,340-1,350 จุด เหมือนเดิม

แนะนำ “ซื้อ” KTC เป้าหมาย 110 บาท จากการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 10.4% ในปี 58 (เพิ่มจาก 9.9% ในปี 57) และบริหารต้นทุนส่งผลกำไรเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปีช่วง 59-62 ขณะที่ PE ต่ำ 9.7-8.1 เท่า ใกล้เคียงกลุ่มธนาคาร แต่กำไรโตกว่ามาก และให้ปันผล 4-5%

ส่วนยอดใช้บัตรเครดิตในช่วง 2 เดือนแรกเติบโตดี +15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการมี Positioning ที่ดีในตลาดบัตรเครดิต ซึ่งเห็นได้ว่ายอดใช้บัตรฯ ดีกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมชัดเจน และในทางเทคนิคราคาหุ้นทะลุ Downtrend ไปแล้วเป็นการเปลี่ยนแนวโน้มระยะกลาง-ยาว มีเป้าหมายระยะสั้นที่เส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน 86.25 บาท และถัดไปที่ 93/98 บาท ตามลำดับ

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,547.76 ล้านบาท ปิดที่ 73.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,298.81 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

JAS   มูลค่าการซื้อขาย 975.55 ล้านบาท ปิดที่   3.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท        

PTT  มูลค่าการซื้อขาย 912.43 ล้านบาท ปิดที่ 278.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 866.22 ล้านบาท ปิดที่ 170.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

Back to top button