SET ไซด์เวย์-จับตา JAS จ่ายค่า 4Gเคาะ 10 หุ้นเด่นน่าเล่น-เน้นเก็งกำไรสั้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบถึงเสี่ยงพักฐาน โดยตลาดยังจับตา JAS ที่ถึงกำหนดชำระค่า 4G ภายใน 16.30 น. ซึ่งเชื่อว่าจ่ายหรือไม่จ่ายไม่น่าจะมีผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มสื่อสารมากนัก เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารได้ปรับลงสะท้อนความเสี่ยงบ้างแล้ว


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.04 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.86 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับมติคงดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงการปรับลดคาดการณ์จำนวนครั้งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบถึงเสี่ยงพักฐาน โดยตลาดยังจับตา JAS ที่ถึงกำหนดชำระค่า 4G ภายใน 16.30 น. ซึ่งเชื่อว่าจ่ายหรือไม่จ่ายไม่น่าจะมีผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มสื่อสารมากนัก เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารได้ปรับลงสะท้อนความเสี่ยงบ้างแล้ว

หุ้นเด่นวันนี้เลือก ได้แก่ CK, UNIQ, DIF, BTSGIF,CPNRF, CPN, BDMS, CPN, EPG,COM7

 

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (21มี.ค.) ว่าSET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways กรอบ 1,374-1,392 จุด รอความชัดเจน JAS ว่าจะสามารถจ่ายเงินค่าคลื่น 900MHz วันนี้หรือไม่? โดยกรณีที่ 1) JAS ไม่สามารถจ่ายเงินได้แนะนำ “ซื้อ” ADVANC INTUCH และ “เก็งกำไร” DTAC และ 2) JAS สามารถจ่ายเงินได้ คาดว่าจะมีแรงขายกลุ่มสื่อสารทั้งกลุ่ม ยกเว้น DIF ที่มีโอกาสให้ JAS เช่าเสาเพิ่มเติม และ JASIF จากผลตอบแทนเงินปันผลสูง 10.5% และความเสี่ยงจากการฟ้องร้องจากภาครัฐหมดไป ทั้งนี้ไม่ว่า JAS จะจ่ายหรือไม่ แนะนำ “ขาย” อยู่ดี

เนื่องจากยังมองความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” ของ SET ระยะสัปดาห์ต่อเนื่องหลังปรับสูงขึ้นแรงตั้งแต่กลางเดือน ม.ค.ทำให้แนะนำ “Selective” มากขึ้น ในกลุ่มหุ้น:-

1) รับเหมาฯ “ซื้อ” CK UNIQ…ราคาหุ้น Laggard ตลาดมาก ขณะที่ รฟม.เตรียมเสนอรถไฟรางคู่ 7 เส้นทางเข้า ครม.ภายใน มี.ค.นี้

2) Asset Funds “ซื้อ” DIF BTSGIF และ CPNRF ปันผล 6-7.4% ได้ผลดีจากผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีที่ลดลงต่อเนื่อง มาที่ 1.8% ในปัจจุบัน

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21มี.ค.) ว่า หากทิศทางเศรษฐกิจภายใน เริ่มมีแรงกดดันเพิ่มขึ้น มีความเป็นไปได้ที่แนวโน้มการทำกำไรของตลาดจะแย่ลง ซึ่งตอนนี้ดูได้สัญญาณล่วงหน้าจากค่าEarning revision ratio ที่กลับถอยลง เราจึงมองว่าทิศทางดัชนี SET ในช่วง เม.ย. ถึงพ.ค. เป็นเดือนที่ดัชนี น่าจะปรับตัวลงแรง แม้ประเด็นในต่างประเทศจะดีขึ้น ทั้งราคาน้ำมัน เม็ดเงินไหลเข้า และตัวเลขเศรษฐกิจประเทศหลักๆ เริ่มทรงตัว แต่ในส่วนของราคาน้ำมัน แม้จะมองว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่โอกาสที่จะขึ้นแรงๆ ยังต้องใช้เวลา

ขณะที่แนวโน้มช่วงสั้นน่าจะอ่อนตัวลงมามีสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนการไหลเข้าของเม็ดเงินน่าจะมีกรอบจำกัด หลังต่างชาติขายทำกำไร จากมองว่ากรอบการขึ้นของตลาดหุ้นไทยอยู่ในกรอบจำกัด แรงซื้อของต่างชาติในวันศุกร์ที่ 3,645 ล้านบาทหากหัก Big lot ออก จะเหลือต่างชาติซื้อประมาณ 1,000 ล้านบาทต้นๆ ซึ่งยังไม่เห็นการเปลี่ยนทิศทางมาเป็นการซื้อรอบใหม่ ทำให้มองว่าทิศทาง SET ในสัปดาห์นี้จะผันผวนแรงขึ้นจากแรงกดของราคาน้ำมันและการขาดปัจจัยหนุน

โดยวันนี้มองดัชนีเปิดจะปรับตัวขึ้นในแดนบวกสลับมีแรงขาย จนดัชนีลงไปในแดนลบ โดยมองแนวต้านที่ 1390-1394และแนวรับที่ 1375-1370 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BDMS

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (21มี.ค.) ว่าสัปดาห์นี้ แนะนำ Trend Follow  โดยวางเงื่อนไขไว้ดังนี้  1 ) กรณีดัชนีผ่านแนวต้านบริเวณ 1,400 จุดได้มีโอกาสวิ่งขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 1,430 จุด   2 ) แต่กรณีดัชนีต่ำกว่าแนวรับ 1,370 จุด แนะนำลดพอร์ต โดยมีโอกาสปรับฐานสู่ระดับ 1,350 จุด 

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21มี.ค.) ว่าคาดดัชนีวันนี้แกว่งแคบ หุ้นน้ำมันน่าจะยังแข็งและยังหนุนดัชนีบ้าง หลังเผชิญแรงขายเมื่อวันศุกร์ที่แล้วทั้งๆที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อ อย่างไรก็ดี ภาพใหญ่ของ SET ยังชะลอและเทรดไซด์เวย์ รอความชัดเจนของปัจจัยในประเทศ เช่น การชำระเงินของ JAs ภายใน 16.30 น.วันนี้ และผลประชุมกนง.วันพุธนี้ ซึ่งคาดว่า กนง.ตรึงดอกเบี้ยที่ 1.50% เพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจก่อนตัดสินใจอีกครั้งในช่วงกลางปี 2559 และตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ ก.พ.ซึ่งเบื้องต้นน่าจะรายงานในวันศุกร์นี้

หุ้นเด่นวันนี้ สะสม EPG/เก็งกำไร COM7

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (21มี.ค.) มีมุมมองเป็นกลางถึงบวกต่อตลาดวันนี้ SET น่าจะ Sideways อยู่ในกรอบ 1,370-1,400 จุด โมเมนตัมในเชิงบวกของ Fund Flow ต่างชาติจะยังคงไหลเข้าในตลาดภูมิภาคจนกว่ามีสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน แม้ Fund Flow ต่างชาติส่วนใหญ่จะไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าซื้อหุ้นที่มีราคาไม่แพงหรือต่ำกว่าพื้นฐาน ซึ่งเชื่อว่าเป้าจะอยู่ที่หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานดี

ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ปรับขึ้นมาค่อนข้างเร็วในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นจึงยังมีโอกาสถูกขายทำกำไรระยะสั้น สำหรับวันนี้ต้องจับตา JAS ที่ถึงกำหนดชำระค่า 4G ภายใน 16.30 น. ซึ่งเชื่อว่าจ่ายหรือไม่จ่ายไม่น่าจะมีผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มสื่อสารมากนัก เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารได้ปรับลงสะท้อนความเสี่ยงที่ราคาประมูล 4G ที่แพงมาก และมี JAS ที่จะเป็นคู่แข่งรายใหม่เข้ามาในตลาดค่อนข้างมากแล้ว

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/สะสมหุ้นขนาดกลางและเล็ก

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: CPN (แนวโน้มสดใสที่สุดและมาถึงจุดที่จะถูก re-rate ขึ้น และ PE ปัจจุบันต่ำกว่าอดีต)

 

Back to top button