SETบ่ายแกว่งแคบเพื่อรอข่าวใหม่แนะกลุ่ม Micro Finance–รายตัว

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ เพื่อรอข่าวใหม่ พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ซึ่งเป็นแนวฟิวเตอร์ด้วย ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด ในทางกลยุทธ์แนะให้เลือกเล่นเป็นรายตัวไป


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (23 มี.ค.) ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ขณะที่ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นแตะ 1,400 จุด แต่ยังไม่สามารถยืนได้ เนื่องจากคาดว่าตลาดยังรอปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามา อย่างไรก็ดีตลาดฯยังมีปัจจัยบวกจากโครงการบ้านประชารัฐ ทำให้เป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีสินค้าบ้านราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท บ่ายนี้ตลาดฯยังคงแกว่งแคบ เพื่อรอข่าวใหม่

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ คล้ายตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งแคบมากทั้งในแดนบวก-ลบ เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และราคาน้ำมันฟิวเจอร์สก็แกว่งแคบ คาดว่าคงจะกำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา

สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่เบลเยียมจะส่งผลกระทบในยุโรปมากกว่า ส่วนทางเอเชีย และไทยไม่ถูกผลกระทบมากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบเอเชีย และจีนมากกว่า ขณะที่นักท่องเที่ยวจากเบลเยียมมีเพียง 1% เท่านั้น

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังพอจะมีปัจจัยที่เป็นบวกบ้าง อย่างโครงการบ้านประชารัฐ ก็จะเป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินค้าบ้านราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นบวกต่อ LPN และ PS เพราะมีสินค้าแบบนี้อยู่มาก ส่วนกลุ่มแบงก์ก็มองว่าสินเชื่อกลุ่ม Corporate น่าจะดีขึ้นได้ในปีนี้ แต่ก็ให้เลือกลงทุนเป็นรายตัว อย่าง BBL ที่ร่วมปล่อยกู้ใหักับ TRUE และ BJC ส่วนราคาน้ำมันยังต้อง Wait & See โดยยังต้องติดตามการรายงานสต็อกน้ำมันของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในช่วงดึกวันนี้ว่าสต็อกน้ำมันจะเพิ่มมากหรือไม่

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ เพื่อรอข่าวใหม่ พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ซึ่งเป็นแนวฟิวเตอร์ด้วย ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด ในทางกลยุทธ์แนะให้เลือกเล่นเป็นรายตัวไป

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 22 มี.ค.) ว่า SET พยายามทำลายแนวต้านที่ 1,400 จุด แม้มีแรงขายทำกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่าง ADVANC INTUCH DTAC ที่ปรับสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้ก็ตาม ขณะที่การประชุม กนง.วันนี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 1.50%

ด้านกลุ่ม Micro Finance แม้คาดการณ์การเติบโตกำไรของกลุ่มอย่าง SAWAD,MTLS จะสูงกว่าตลาดมาก แต่ราคาหุ้น SAWAD MTLS กลับปรับลดลง 8-12% สวนทางตลาดที่ปรับสูงขึ้น 8.6% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำเป็นปัจจัยหนุน Net Interest Margin ของบริษัทต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 56 บาท จากคาดการณ์กำไรเติบโต 47% ปีนี้ เป็น 1.9 พ้นล้านบาท จากการเติบโตสินเชื่อ การขยายสาขา และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น

อีกทั้งได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำยาวนาน หนุน NIM ของบริษัท ราคาหุ้น Laggard ตลาดมาก โดยปรับลดลง 12% YTD เทียบกับ SET ที่ปรับสูงขึ้น 8.6% ขณะที่ราคาหุ้นปรับลดลงเข้าใกล้แนวรับทางเทคนิคบริเวณ 40-41 บาท มีจังหวะ Rebound ระยะสั้น เป้าหมาย 44.50 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,991.17 ล้านบาท ปิดที่   8.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,978.50 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท ลดลง   4.00 บาท

JAS    มูลค่าการซื้อขาย 1,880.52 ล้านบาท ปิดที่   3.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท          

AOT    มูลค่าการซื้อขาย 1,501.19 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท ลดลง   4.00 บาท

DTAC   มูลค่าการซื้อขาย 1,274.48 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท ลดลง   0.75 บาท

 

 

Back to top button