SET ไซด์เวย์ ขาดปัจจัยใหม่หนุนนำชู 18 หุ้นเด็ด แนวโน้มกำไรแข็งแกร่ง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ไซด์เวย์ เนื่องจากตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปิดทำการในวันนี้เนื่องในวัน Good Friday ซึ่งจะกดดันให้มูลค่าการซื้อขายอาจจะชะลอตัวลงบ้าง ขณะที่การเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มสื่อสารน่าจะมี upside จำกัด ผนวกราคาน้ำมันทรงตัวในกรอบจำกัด แนะนำเล่นหุ้นขนาดกลาง และหุ้นที่แนวโน้มกำไรปีนี้แข็งแกร่ง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.09 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.31 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการในวันนี้เนื่องจากวัน Good Friday

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ไซด์เวย์ เนื่องจากตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปิดทำการ ซึ่งจะกดดันให้มูลค่าการซื้อขายอาจจะชะลอตัวลงบ้าง ขณะที่การเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มสื่อสารน่าจะมี upside จำกัด ผนวกราคาน้ำมันทรงตัวในกรอบจำกัด แนะนำเล่นหุ้นขนาดกลาง และหุ้นที่แนวโน้มกำไรปีนี้แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเลือก SAWAD-CK-UNIQ-CENTEL-MINT-HANA-KCE-BH-IFEC-GUNKUL-EA-AOT-EPG-SVI-VIBHA-STEC-TKN และITD

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ถึงซึมตัวออกด้านข้าง หลังหลายตลาดปิดทำการในวันนี้เนื่องในวัน Good Friday ทั้งตลาดสิงคโปร์ ,ฮ่องกง ,ฟิลิปปินส์ ,อินโดนีเซีย ,อินเดีย ,สหรัฐ และกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งจะกดดันให้มูลค่าการซื้อขายอาจจะชะลอตัวลงบ้าง

อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดอาจจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังจากที่เริ่มมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของโครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทางที่คาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า รวมถึงมีความคืบหน้าการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง

ขณะที่การเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มสื่อสารน่าจะมี upside จำกัดแล้วหลังจากที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังมี overhang จากเรื่องการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz ส่วนกลุ่มแบงก์ ยังมีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/59 ที่ไม่ดีนัก โดยมองว่านักลงทุนน่าจะเวียนกลุ่มมาเล่นในหุ้นขนาดกลางและเล็กมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ประกอบกับตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนการลงทุนมากนักในช่วงนี้

ทั้งนี้ มองว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นอาจจะยังไม่ปรับตัวลดลงมากนัก เนื่องจากตลาดยังมีความคาดหวังต่อการประชุมครม.ในสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆ และการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) ซึ่งจะทำให้ดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวได้สัปดาห์หน้า พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,400 จุด และแนวต้านบริเวณ 1,411-1,412 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 มี.ค.) ว่าการพักฐานวานนี้ไม่ได้เปลี่ยนแนวโน้ม Sideways Up ไปที่ 1,430-1,460 จุด ในระยะสัปดาห์ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) Bond Yield ต่ำทั่วโลกหนุนกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ล่าสุด Bond Yield 10 ปีในประเทศอยู่ที่ 1.8% 2) Earnings Yield Gap ยังสูงที่ 5% (ค่าเฉลี่ยปี 2010-15 ที่ 4%)  3) การประมูลโครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่กลางปีนี้ หนุน Sentiment เศรษฐกิจ และกลุ่มรับเหมาฯ วัสดุก่อสร้าง

โดยมองว่าการพักฐานของ SET ระยะสั้นเป็นโอกาสในการ “ซื้อ” กลุ่มหุ้น Laggard Plays ที่พื้นฐานดี ได้แก่

1) กลุ่ม Micro Finance ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำ ราคา Laggard: SAWAD

2) กลุ่มรับเหมาฯ ครม.พิจารณารถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า: CK UNIQ

3) กลุ่มโรงแรม กำไรไตรมาส 1/59 ดี+มาตรการลดหย่อนภาษี: CENTEL MINT

4) กลุ่มอเล็กทรอนิกส์ ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อน: HANA KCE

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 มี.ค.) ว่า SET วันนี้ไซด์เวย์ จึงให้เน้นหุ้นขนาดกลาง มุมมองเชิงเส้นกราฟคงให้ดู 1,407 จุด เป็นระดับสำคัญ หากยืนได้ยังไม่เสียอาการ ปัจจัยภายนอกเป็นลบเล็กน้อยหลังดัชนีเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่หก หลังผู้ว่าการเฟดถึงสามสาขา มองเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยในเดือน เม.ย.

ผนวกราคาน้ำมันทรงตัวในกรอบจำกัด (นักเศรษฐศาสตร์ KGI คงมุมมองขึ้นช่วงกลางปี) ด้านปัจจัยภายในน่าจะมีข่าวดีจากยอดส่งออก ก.พ. ที่น่าจะฟื้นตัวแรงตามมูลค่าส่งออกทองคำและปิโตรเลียม แต่ผลต่อ SET คงมีจำกัด คงมุมมองหุ้นใหญ่ใกล้เต็มมูลค่าหลายตัว หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร BH,EPG สะสม IFEC

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (25 มี.ค.) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้มีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้ คาด SET sideways และมีปริมาณการซื้อขายเบาบางลงเนื่องจากมีหลายตลาดในภูมิภาคปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday

ขณะที่ตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่หนุนนำ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติยังไม่มีสัญญาณไหลออก แม้ค่าเงินบาทจะอ่อนค่า แต่เกิดจากธปท. น่าจะเข้าแทรกแซง และค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร

สำหรับเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าไทยในช่วงที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไหลเข้าตลาดพันธบัตรแม้ส่วนใหญ่จะเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้น แต่ก็ยังมีระยะเวลาในการถือครองนานกว่าหุ้น สำหรับปัจจัยที่ติดตามคื้นนี้เป็นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอาทิ ตัวเลขจีดีพีสหรัฐไตรมาส 4/58 ปรับปรุงครั้งสุดท้ายที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 1% จากครั้งก่อนอยู่ที่ 2% ส่วนในประเทศต้องติดตามตัวเลขส่งออกไทยเดือนก.พ ที่คาดว่าจะประกาศเช้าวันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่ายังติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ปรับลงต่อเนื่องหลายวันจึงมีโอกาสรีบาวด์หลังรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงต่ำสุดในรอบหลายปี

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/เน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: SAWAD (ราคาหุ้นปรับลงสวนทางกับผลกำไรที่ปรับขึ้นทำ New high ต่อเนื่อง)

หุ้นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปีนี้ : ท่องเที่ยว โรงพยาบาล สินเชื่อรายย่อย รับเหมาก่อสร้าง และพลังงานทดแทน

หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตดีในปีนี้ : SAWAD, GUNKUL, EA, AOT, EPG, SVI, VIBHA, CK, STEC, TKN

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (25 มี.ค.) ว่ากลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนีมีโอกาสทรงตัวเนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งหยุดทำการ โดยวาง Filter แนวรับสำคัญไว้ที่ 1,390 – 1,400 จุด  แนะนำซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง  ITD, CK, UNIQ ( + โครงการรถไฟฟ้า 2 สายเข้าสู่การพิจาณา ครม. ในสัปดาห์หน้า )

Back to top button