จับตา 14 บจ.เด่น เริ่มเก็งงบไตรมาสแรกSET ยังได้ประเด็นเฟดหนุนปรับตัวขึ้นต่อ

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.20 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวขึ้น โดยนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ระบุว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อแต่จะชะลอความร้อนแรงลง โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากประเด็นเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย การลงทุนเน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาสแรกออกมาดี มีแระเด็นบวกเฉพาะตัว หรือหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าการเข้าซื้อของต่างชาติ

หุ้นเด่นเลือก AOT-KBANK-CK-SAWAD-HANA-KTC-BBL-CPALL-SCC-BH-BANPU-KTC-IFEC และ VGI

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (31 มี.ค.) แนวโน้มการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า, Bond Yield ปรับลดลง, Earnings Yield Gap ปรับสูงขึ้น ประกอบกับการใช้มาตรการ QE ของ ECB และ BOJ หนุนกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง (Liquidity Driven) เป็นปัจจัยหนุน SET ปรับสูงขึ้นต่อ เป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,430-1,460 จุด โดยคาดว่ากลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายการซื้อของนักลงทุนต่างชาติจะเป็นหุ้น “กลุ่มนำ” ตลาด

Liquidity Driven หนุนหุ้นขนาดใหญ่ พื้นฐานดี คาดว่าจะเป็นหุ้น “กลุ่มนำ” ตลาด แนะนำ “ซื้อ”

1) หุ้นใหญ่ที่เป็น Laggard Plays: SCC MINT โดราคาตั้งแต่ต้นปีปรับขึ้นแค่ 1%

2) คาดกำไรไตรมาส 1/59 ออกมาดี และราคาหุ้นพักฐานก่อนหน้า: AOT

3) กลุ่มธนาคารเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของต่างชาติ: KBANK

สำหรับกลุ่มหุ้นขนาดกลาง แนะนำ “ซื้อ” CK SAWAD HANA และ KTC

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (31 มี.ค.) คาด SET วันพฤหัสฯ ชะลอความร้อนแรง แต่คงยังบวกอยู่ หลังฟันด์โฟลว์แข็งแกร่ง (วานนี้พุ่งแรงกว่าคาดมาก) คาดว่าตลาดจะรอดูตัวเลขสำคัญได้แก่การจ้างงานและอัตราว่างงานสหรัฐฯ มี.ค. ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นหลักยังคงปรับตัวขึ้น หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ เฉพาะของภาคเอกชน (ADP payrolls) เพิ่ม 2.0 แสนคน เท่า consensus คาด ด้านปัจจัยภายใน ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือน ก.พ. บ่ายวันนี้ แต่คาดไม่ส่งผลต่อ SET อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ในแง่ของดัชนีฯ เราคงเป้าหมาย SET สิ้นปี 2559 ที่ 1,452 จุด (มี upside เพียง 3% จากปัจจุบัน) และคงแนะนำปรับพอร์ตออกจากหุ้นหลักที่เทรดใกล้มูลค่าพื้นฐาน เปลี่ยนเข้าหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนเด่น

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร CPALL (เป้าพื้นฐาน 56 บาท), KTC (เป้าพื้นฐาน 125 บาท)/ สะสม IFEC(เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท)

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (31 มี.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดวันนี้ เสี่ยงต่อการพักฐาน/แนะทยอยขายทำกำไร

ตลาดไทยเมื่อวานขยับขึ้นชัดเจนด้วยแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติกว่า 8.5 พันล้านบาท สำหรับวันนี้ SET Index จะยังคงได้แรงหนุนจากการที่นางเจเนต เยลเลน ยืนยันจะยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาตินำเงินมาลงทุนในเอเชียมากขึ้น นอกจากนี้ วันนี้ยังเป็นวันสุดท้ายของการทำ window dressing จึงน่าจะมีแรงซื้อจากสถาบันมาช่วยหนุนได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม แนะนำทยอยขายทำกำไรขณะที่ดัชนีอยู่เหนือ 1,400 จุด เนื่องจาก SET Index มี valuation ที่แพงกว่าตลาดเพื่อนบ้านและ upside มีจำกัด จึงมีความเสี่ยงต่อการพักฐานโดยเฉพาะก่อนช่วงวันหยุดยาวในเดือนหน้า สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อหุ้น แนะนำรอจังหวะดัชนีย่อลงเพื่อเข้าเก็บหุ้น defensive ปันผลสูงเป็นหลัก

แนวรับ/แนวต้าน: 1,380/1,420 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นปันผลสูงในกลุ่มพลังงานปลายน้ำ สื่อสาร อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (31  มี.ค.) ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,430 จุด จากปัจจัยบวก Fund Flows โดยมีแนวรับ 1,400-1,405 จุด แนะนำซื้อหุ้น Big Cap. ที่เป็นเป้าหมายการซื้อของต่างชาติ เช่น BBL, CPALL, AOT, SCC, BH และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างต่อประเด็นบวกความคืบหน้า PPP Fast Track 5 โครงการที่จะสู่การพิจารณา ครม.

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (31 มี.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค กราฟล่าสุดแสดงภาพการแกว่งตัวแต่เป็นสัญญาณลักษณะจะ breakout ในทางขึ้น โดยได้แรงหนุนของ MA10 และ MA25 และ วอลุ่มหนาแน่นเมื่อวาน โดยเฉพาะการแกว่งตัวก่อนหน้า 3 สัปดาห์ทำให้สัญญาณขาขึ้นมีโอกาสเกิดสัญญาณเชิงบวกเร็วขึ้น และสนับสนุนภาพใหญ่ของ SET มี momentum ในทางขาขึ้นในระยะกลาง

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,395-1,415

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร BANPU และ VGI