SETบ่าย upside จำกัดมีโอกาสพักฐานแนะสอย 8 หุ้นใหญ่ราคายัง Laggard

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ต้องรอลุ้นให้ดัชนีฯยืนเหนือระดับ 1,400 จุดให้ได้ ถ้าไม่สามารถยืนเหนือได้ก็มีโอกาสที่จะตลาดฯจะพักฐาน พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด แนะสอย 8 หุ้นใหญ่ราคายัง Laggard


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (31 มี.ค.) การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แนะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่วนบ้านเรามอง upside ไม่มากแล้ว หลังจากยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนในระดับเศรษฐกิจมหภาค บ่ายนี้ลุ้นดัชนีฯให้ยืนเหนือ 1,400 หากหลุดมีโอกาสพักฐาน ให้แนวรับ 1,400 แนวต้าน 1,420 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เป็นลักษณะของการพักตัวบ้างหลังจากที่ขึ้นไปแรงเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะจากแรงซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งที่โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯยังคงมีอยู่ แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงก็ยังหนุนตลาดฯได้ในระยะสั้น

ทั้งนี้ มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯหลาย ๆ ตัวก็ยังแข็งแกร่ง ซึ่งสวนทางกับคำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะระวังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยพิจารณาจากเศรษฐกิจของโลกที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี ก็คงจะต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯมากขึ้น

สำหรับตลาดบ้านเราก็มองว่า upside ไม่มากแล้ว เนื่องจากยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในระดับเศรษฐกิจมหภาค แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ต้องรอลุ้นให้ดัชนีฯยืนเหนือระดับ 1,400 จุดให้ได้ ถ้าไม่สามารถยืนเหนือได้ก็มีโอกาสที่จะตลาดฯจะพักฐาน พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 31มี.ค.) ว่า การปรับลดลงของ PTT และการขึ้นเครื่องหมาย XD 6.49 บาท ของ ADVANC กดดัน SET ตั้งแต่เปิดตลาด ซึ่งไม่ได้ทำให้มุมมองบวกต่อแนวโน้มการไหลเข้าของกระแสเงินทุน (Liquidity Driven) เปลี่ยนไปล่าสุด Bond Yield 10 ปี ในประเทศปรับลดลงต่ำกว่า 1.8% แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการไหลเข้าของกระแสเงินทุนต่อเนื่อง

ขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ปรับสูงขึ้นเฉลี่ย 14.2% ตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ SET50 ปรับสูงขึ้น 11% ตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ดีถ้าพิจารณาจากกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่จะเห็นว่ามีหุ้นหลายตัวที่ยังปรับสูงขึ้นไม่มากนัก อย่าง BTS SCC MINT TMB BDMS TOP CPN และ KTB

โดยแนะนำ “ซื้อ” 1) BTS การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเปิดโอกาส BTS เข้าบริหารการเดินรถเพิ่ม 2) SCC ราคาหุ้น Laggard ตลาดมากไป 3) MINT กำไรไตรมาส 1/59 ดีเนื่องจากเป็นช่วง High Season ธุรกิจท่องเที่ยว และได้ประโยชน์มาตรการลดหย่อนภาษี กิน-เที่ยว 4) KTB ราคาหุ้น Laggard กลุ่มธนาคาร รอรับปันผล 0.76 บาท หรือ 3.8% วันที่ 10 พ.ค. ขณะที่ AOT แม้ราคาหุ้นปรับขึ้นแรงแล้ว แต่มองการพักฐานก่อนหน้าเป็นโอกาสในการ “ซื้อ” คาดกำไรไตรมาส 2/59 ออกมาดีจากจำนวนผู้โดยสารเติบโต และพื้นที่เช่าดอนเมืองที่เพิ่มขึ้น

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,326.27 ล้านบาท ปิดที่ 182.50 บาท ลดลง 6.50 บาท

PTT    มูลค่าการซื้อขาย 1,046.56 ล้านบาท ปิดที่ 282.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

AOT    มูลค่าการซื้อขาย   710.03 ล้านบาท ปิดที่ 404.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท        

CPF มูลค่าการซื้อขาย   662.32 ล้านบาท ปิดที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย   596.09 ล้านบาท ปิดที่ 173.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง  

 

 

Back to top button