ดักเก็บ 14 หุ้นน้ำดีมีสตอรี่หนุนSET ย่ำฐาน-ยังไม่พ้น 1,400 จุด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบ คาดยังย่ำฐานอยู่ในแดนลบ เนื่องจากวันนี้จะมีหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวขึ้นเครื่องหมาย XD อาทิ BIGC, INTUCH, SCC ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯราว 2.2 จุด นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอาจกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.06 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.12 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบ คาดยังย่ำฐานอยู่ในแดนลบ เนื่องจากวันนี้จะมีหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวขึ้นเครื่องหมาย XD อาทิ BIGC, INTUCH, SCC ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯราว 2.2 จุด นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอาจกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน

สำหรับหุ้นเด่นเลือก MINT, AOT, CK, UNIQ,KTC, LH,ERW, STEC, KTC, ASEFA, IFEC, THAI, AAV, BA

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าแกว่งไซต์เวย์ อิงแดนลบ เนื่องจากวันนี้จะมีหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวขึ้นเครื่องหมาย XD อาทิ BIGC, INTUCH, SCC ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯราว 2.2 จุด นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ปรับตัวลงด้วยอาจกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยมีตลาดหุ้นไต้หวัน, ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการในวันนี้เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง ทำให้คาดว่าวอลุ่มเทรดของตลาดหุ้นไทยอาจจะมีไม่มาก เพราะในช่วงกลางสัปดาห์นี้ตลาดก็จะปิดทำการด้วย ทำให้นักลงทุนอาจจะชะลอการลงทุนได้

พร้อมให้แนวรับ 1,395 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410-1,412 จุด

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.) ยังมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้ คาด SET sideways ตามตลาดหุ้นภูมิภาค หุ้นในกลุ่มธนาคารอาจยังได้รับแรงกดดันจากคาดการผลประกอบการ 1Q16 ที่ยังไม่ฟื้นตัวและNPL ที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อสารก็ยังไม่มีทิศทางชัดเจนเกี่ยวกับกรณีของ Jas Mobile ส่วนกลุ่มพลังงานก็มีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่า Fund Flow ต่างชาติยังเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องจากตลาดหุ้นไทย Underperform ตลาดหุ้นภูมิภาคมาตลอดต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และหากเปรียบเทียบ Forward PE ปี 2016 ของ SET ปัจจุบันที่ 14.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม TIPs อยู่ที่ 16.67 เท่า ซึ่งปกติ SET บ้านเราจะเทรดต่ำกว่าภูมิภาคเล็กน้อย ดังนั้นก็ยังถือว่าไม่ถูกแต่ก็ไม่แพง

กลยุทธ์วันนี้: ยัง Buy on Weakness

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: STEC (มีโอกาสได้งานก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ 2 หมื่นเมกกะวัตต์ หลังรัฐยกเว้นการใช้บังคับผังเมืองรวม)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.) แม้ตัวเลขการจ้างงานและการดัชนีการผลิตสหรัฐฯ จะออกมาดี แต่คาดนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนก่อนวันหยุดยาว รวมถึงน้ำมันที่ปรับลงแรง และจากข้อมูลสถิติ ปี 2011-15 มี 4 ใน 5 ปีที่ SET ปรับลง 10 วันแรก ก่อนจะปรับขึ้นในช่วงหลังสงกรานต์ จึงแนะนำ “เลือกซื้อ” เน้นกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่ laggard คาดจะเป็นเป้าการซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และจะเป็นหุ้น “กลุ่มนำ” ในรอบการปรับขึ้นในครึ่งเดือนหลัง ทั้งนี้สถิติย้อนหลัง 10 ปี ผลตอบแทนของ SET เดือน เม.ย. เป็นบวกถึง 8 ใน 10 ปี และด้วยสภาพคล่องโลก และไทยที่ยังคงมีอยู่ในระดับที่สูง (ล่าสุด Bond Yield ไทยอายุ 10 ปี ทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้งที่ 1.63%) มองเป้าหมาย SET ระยะสั้นที่ 1,430-1,460 จุด

แนะนำ “ซื้อ” หุ้นขนาดใหญ่ที่ laggard และ กลุ่มรับเหมาฯ:-

1) SCC (XD วันนี้ 8.5 บาท) MINT AOT เป็นหุ้นใหญ่ และ laggard play

2) หุ้นกลุ่มรับหมาฯ CK UNIQ คาดรัฐบาลยังคงเร่งการลงทุนต่อเนื่อง และ KTC คาดกำไรปี 17-18 โต 20-25%จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.) ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดกลุ่มพลังงานได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงกอรปกับการเริ่ม Preview หุ้นกลุ่มแบงก์ที่ผลประกอบการไม่น่าตื่นเต้นนัก อาจมีการ Take Profit หุ้นในกลุ่มแบงก์ออกมาบ้าง กลยุทธ์การลงทุน ประเมินแนวโน้มดัชนีอ่อนตัวลงโดยแต่ยังมีอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าเป็นปัจจัยหนุน Fund Flow หากยืนเหนือ 1,380-1,385 จุดได้ แนะนำ ขึ้นขายลงซื้อ โดยเน้นทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว วันนี้คาดหุ้นการบิน THAI AAV BA จะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัว

 

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.) คาดดัชนีวันนี้แกว่ง/ลบกรอบแคบ หุ้นใหญ่อย่าง INTUCH และ SCC ขึ้น XD วันนี้ ผนวกหุ้นน้ำมันอาจถ่วงดัชนี หลังราคาน้ำมันลง 3.7% เมื่อวันศุกร์ (และเช้านี้ลง 1.0% ) หลังซาอุ แถลงจะไม่ตรึงปริมาณผลิตน้ำมันหากอิหร่านไม่ร่วมโครงกรนี้ด้วย นอกจากนี้จิตวิทยาระยะสั้นของหุ้นธนาคารอ่อนลง ตามแนวโน้มกำไรไตรมาสแรกที่ยังไม่โดดเด่น อย่างไรก็ดีคาดดัชนีไม่ลงแรงหลังทุนต่างชาติยังซัพพอร์ทตลาด หลังตัวเลขจ้างงาน มี.ค.สูงกว่าคาด แต่อัตราว่างที่ 5.0% สูงกว่าคาดที่ 4.9% ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลล่าน่าอยู่ในฝั่งอ่อนค่าต่อในช่วงสั้นๆ ภาพรวมหุ้นใหญ่น่าจะแกว่งตัว คงแนะนำเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางเป็นสำคัญ ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้รอประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ (คาดพิจรณาสายสีส้ม)

หุ้นเด่นวันนี้ KTC-ASEFA/IFEC

 

บล.ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.) ประเด็นที่จะนำพาตลาดลงรอบนี้ นอกจากผลการดำเนินงานแล้ว ที่เห็นได้ชัดคือ ราคาน้ำมัน โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิ่งลงไปอีก 4% เมื่อคืนวันศุกร์ หลัง รมต. น้ำมันซาอุฯ เผยว่าการประชุมที่จะเกิดในวันที่ 17 เม.ย. เรื่องการ Freeze production จะต้องมีอิหร่านเข้าร่วมด้วย ซึ่งที่ผ่านมาทางอิหร่านปฎิเสธ การเข้าร่วมมาโดยตลอด ดังนั้นหากผลการประชุมในวันที่ 17 เม.ย. ไม่มีอะไรออกมาหรือเลื่อนประชุมออกไปอีก น่าจะส่งผลต่อราคาน้ำมัน ข้อมูลล่าสุดสิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค. ทาง Hedge fund ลดการ Long position น้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์

ภาพตลาดในบ้านเราในอาทิตย์นี้ น่าจะเริ่มแกว่งตัวแรงขึ้นหลังราคาน้ำมันกำลังดิ่งลง รวมทั้งข่าวที่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินจะเข้าไต่สวน PTT กรณีฉ้อโกงประชาชน ขณะที่ปัจจัยภายในไม่มีอะไรใหม่ๆ โดยค่า P/E เล่นกันเกือบสูงสุดรอบ 10 ปี จึงมองว่าในอาทิตย์นี้ดัชนี SET จะลงมาเล่นต่ำกว่า 1400 จุด จากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน สำหรับแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศมองไม่น่าจะมีเพิ่มขึ้นจนกว่าจะมีการประกาศงบ Q1/16

โดยวันนี้มองดัชนีเปิดขึ้นมาจะเทรดทั้งแดนบวกและลบ แต่สุดท้ายน่าจะปิดลบแรง โดยมีแนวต้านที่ 1406-1410 จุด ส่วนแนวรับที่ 1390-1385 จุดหุ้นที่แนะนำ เล่นเก็งกำไรในวันนี้ คือ LH และ ERW โดยดัชนีกลุ่มทั้ง 2 ยังขึ้นได้น้อยมาก

 

Back to top button