SET ขึ้นกรอบจำกัด-วอลุ่มเบาบางชู 11 หุ้นมีปัจจัยบวก เก็ง Q1 กำไรแกร่ง

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.06 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.05 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลเงินเฟ้อจีน โดยมีกระแสคาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนอาจจะทำให้ทางการจีนไม่สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้อีก

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ปรับขึ้นกรอบจำกัด โดยกลุ่มพลังงานมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยมีเวลาเทรดอีก 2 วันก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์  อย่างไรก็ดี ปัจจัยต่างประเทศมีความไม่แน่นอนอยู่ ภาพใหญ่คงมองตลาดหุ้นไซด์เวย์ต่อไป

สำหรับหุ้นเด่นเลือก SAWAD, PTTEP, AOT, AAV, BA, TTA, PSL, CPF, KTC, BTS และ CPF

 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็มีแรงกดดันทางปัจจัยการเมือง หลังจากที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ทำให้อาจไปกดดันตลาดฯได้

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราจะมีวันเทรดเพียงแค่ 2 วันก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ ในช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรเป็นพิเศษจากนอกประเทศ

พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (11 เม.ย.) ยังมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้ SET มีโอกาสรีบาวด์ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยน้ำหนักตลาดจะอยู่ที่หุ้นกลุ่มพลังงานที่น่าจะปรับขึ้นจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับ US$40/บาร์เรลใหม่อีกครั้ง หุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT จะฟื้นตัวต่อเนื่องหลังคาดว่าศาลอาจยกคำร้องกรณีส่งมอบทรัพย์สินคืนให้แก่กระทรวงการคลังเช่นเดียวกับกรณีของคุณรสนาที่ศาลยกคำร้องไปก่อนหน้านี้ หุ้นกลุ่มแบงก์และสื่อสารน่าจะทรงตัวรอความชัดเจนทั้งทิศทางดอกเบี้ยขาลงและการประมูล 4G ที่ต้องรอไปถึงเดือนพ.ค. นี้

นอกจากนี้การเคลื่อนไหวของ SET ในช่วงสงกรานต์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยพบว่า SET ก่อนช่วงสงกรานต์จะปรับลง 0.1% แต่หลังจากวันหยุดสงกรานต์ SET มักจะปรับขึ้น 1.4% แต่ปริมาณการซื้อขายจะเบาบางช่วงก่อนสงกรานต์ ส่วนปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตามได้แก่ ค่าเงินเยนญี่ปุ่นที่แข็งค่าต่อเนื่องและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกยังปรับลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่งสัญญาณในเชิงลบต่อตลาดหุ้นโลก

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: CPF (ราคาหมู ไก่ ปรับขึ้น และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่เป็น 32 บาท)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 เม.ย.) การปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบ Brent กว่า 6% ปิดที่ US$41.94/bbl ใกล้จุดสูงสุดของปีนี้ เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT PTTEP PTTGC TOP IRPC และจะเป็นปัจจัยหนุน SET ฟื้นตัวต่อเนื่องวันนี้หลังจากดีดตัวที่แนวรับ 1,350 +/- จุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจากสถิติช่วง 2011-2015 จะเห็นว่า SET มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนเป็น “บวก” ถึง 80% (4 ปีใน 5 ปี) หลังสงกรานต์

แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำ และคาดการณ์ผลการดำเนินงาน 1Q16 เติบโตแกร่งต่อเนื่อง

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (11 เม.ย.) ประเมินดัชนี SET น่าจะเริ่มฟื้นตัวไปที่ระดับ 1,380 – 1,390 จุด โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,360 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบดังกล่าว ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร PTTEP , กลุ่มท่องเที่ยว ( AOT,AAV,BA) และกลุ่มเดินเรือ ( TTA,PSL รับปัจจัยบวกดัชนี BDI ฟื้นตัว )

 

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (11 เม.ย.) คาดดัชนีวันนี้ขึ้นต่อ/ผันผวน หุ้นน้ำมันน่าจะนำดัชนีฟื้นตัวต่อหลังราคาน้ำมันสหรัฐขึ้นเกือบ 6% รับตัวเลขผลิตน้ำมันของสหรัฐที่ลดลง ค่าเงินดอลล์ที่อ่อนต่อ และการกลับมาเก็งกำไรประชุมโอเปกวันที่ 17 เม.ย.ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็ง 0.25% เมื่อวันศุกร์น่าจะช่วยชะลอแรงขายจากต่างชาติได้บ้าง อย่างไรก็ดี จิตวิทยาของหุ้นกลุ่มหลักอื่นๆ ยังไม่ดีนัก ส่งผลให้ดัชนีน่าจะมีทางขึ้นกรอบจำกัดและเนื่องจากปัจจัยต่างประเทศมีความไม่แน่นอนอยู่ช่วงไทยหยุดสงกรานต์ จึงแนะนำจำกัดการลงทุนอยู่ในหุ้น mid caps ที่มีประเด็นการลงทุนชัดเจน ภาพใหญ่คงมองตลาดหุ้นไซด์เวย์ต่อไป

หุ้นเด่น เก็งกำไร CPF-KTC/สะสม BTS

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ (11 เม.ย.) ตลาดไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสามารถดีดกลับขึ้นได้ดี หลังทดสอบแนวรับบริเวณ 1350 จุด โดยมีแรงซื้อจากกองทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเข้าหนุน อย่างไรก็ดี แนวโน้มวันนี้อาจเห็นตลาดซึมลงได้ด้วยแรงขายก่อนช่วงหยุดยาว โดยเฉพาะแรงขายของต่างชาติที่น่าจะยังคงมีอยู่ในสัปดาห์นี้ แต่บริเวณแนวรับ 1350 จุดน่าจะเอาอยู่ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ขยับขึ้นช่วง 3 วันที่ผ่านมาจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานไว้ได้บ้าง แนะนำซื้อหุ้นสะสมเพิ่มเป็นรายตัว ช่วงที่ดัชนีย่อลง โดยเฉพาะใกล้ๆแนวรับ 1350 จุดหรือต่ำกว่า 1360 จุด