SET ปรับฐาน-กลุ่มพลังงานกดดัน เคาะ 8 หุ้นเด่นรับผลดีน้ำมันขาลง
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ได้รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงาน เหตุราคาน้ำมันโลกปรับฐานลงแรงกว่า 5% หลังผลการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องของกำลังการผลิตน้ำมัน สำหรับสัปดาห์นี้ต้องติดตามรายงานผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารที่คาดว่าน่าจะไม่ค่อยดีนักแต่ตลาดก็รับรู้ประเด็นนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.06 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.05 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ร่วงลง รวมถึงราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ได้รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงาน เหตุราคาน้ำมันโลกปรับฐานลงแรงกว่า 5% หลังผลการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องของกำลังการผลิตน้ำมัน สำหรับสัปดาห์นี้ต้องติดตามรายงานผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารที่คาดว่าน่าจะไม่ค่อยดีนักแต่ตลาดก็รับรู้ประเด็นนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว
สำหรับหุ้นเด่นเลือก RS, MTLS, DCC, EPG,BTS, AOT, EPG, SAWAD
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวลงกัน ภายหลังจากที่ผลการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องของกำลังการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นปรับตัวลงหลังจากที่เงินเยนกลับมาแข็งค่า
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเศรษฐกิจโลก จากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ลง รวมทั้งวันนี้จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผลในหุ้นขนาดใหญ่ อย่างหุ้น SCCC และ SCB ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯให้ปรับตัวลง 1.6 จุด
พร้อมให้แนวรับ 1,375-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,390-1,400 จุด
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (18 เม.ย.) มีมุมมองเป็นกลางถึงลบต่อตลาดวันนี้ SET น่าจะผันผวนในทิศทางลงจากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบโลกล่วงหน้าที่ปรับลงกว่า 5% หลังผลประชุมเพื่อร่วมกันตึงกำลังผลิตของผู้ผลิตน้ำมันประสบความล้มเหลว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการปรับลงของราคาน้ำมันดิบน่าจะเกิดขึ้นชั่วคราวเพราะยังมีปัจจัยหนุนราคาน้ำมันคือ ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนค่า สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเริ่มลดลง ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐเริ่มลดลงหลังแท่นขุดเจาะน้ำมันร่วงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009
สำหรับสัปดาห์นี้ต้องติดตามรายงานผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารที่คาดว่าน่าจะไม่ค่อยดีนักแต่ตลาดก็รับรู้ประเด็นนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนหุ้นกลุ่มสื่อสารยังไม่มีประเด็นใหม่และยังคงต้องรอประมูล 4G ปลายเดือนพ.ค. ส่วนการประชุม ECB ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 เม.ย นี้ยังไม่มีประเด็นอะไรใหม่ ดังนั้นตลาดช่วงนี้จึงเน้นเล่นเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก
กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: AOT EPG (ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบลง) SAWAD (ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง)
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 เม.ย.) กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP กดดัน SET วันนี้หลังการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่ Doha เมื่อคืนนี้ประสบความล้มเหลวในการคงกำลังการผลิต ส่งผลน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงกว่า 5% เช้านี้ อย่างไรก็ตามจาก 1) Bond Yield ต่ำหนุนกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง (ดูรายงาน T-Wealth เดือน เม.ย.เพิ่ม) ต่อเนื่อง 2) คาดการณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ในเดือน ส.ค.นี้ และ 3) สถิติในอดีต 4 ใน 5 ปีที่ผ่านมา SET ให้ผลตอบแทนเป็น “บวก” หลังสงกรานต์ มองเป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,430-1,460 จุด
TradeCode: Buy > RS, MTLS, DCC
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (18 เม.ย.) ตลาดหุ้นไทยก่อนช่วงวันหยุดสงกรานต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.14% ปริมาณการซื้อขายชะลอตัวลงอยู่ที่ระดับ 3.1 หมื่น ลบ. ภาวะการซื้อขายโดยรวมเริ่มฟื้นตัวจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มสื่อสารหลังจากมีความชัดเจนการประมูลคลื่น 900 MHz ในเดือน พ.ค.นี้ ส่วนทิศทางการซื้อขายหุ้นไทยวันนี้คาดได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงหลังจากการประชุมโอเปกไม่สามารถหาข้อสรุปมาตรการจำกัดการผลิตน้ำมันได้ และต้องรอการประชุมในเดือน มิ.ย.นี้
ประเมินทิศทาง SET ในสัปดาห์นี้จะยังทรงตัวที่แนวรับ 1,360 – 1,370 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเพียงการเทรดระยะสั้นตามกรอบการลงทุน เพื่อรอประเมินปัจจัยใหม่ที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นไทย
บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (18 เม.ย.) คาดดัชนีวันนี้ขึ้น รับรู้การขึ้นแรงของหุ้นโลกช่วงสงกรานต์ โดยตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.ถึงเช้านี้ 8.00 น.ดัชนี MSCI Asia ex-Japan ขึ้น 2.0% ด้วยแรงส่งจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ยังแข็งแกร่ง และงบไตรมาสแรกของธนาคารในสหรัฐที่ยังดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันปรับฐานแรงเช้านี้ หลังที่ประชุมโอเปกเมื่อวานไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องการตรึงปริมาณผลิตได้ ส่งผลให้หุ้นโลกปรับฐานแรง จึงมองดัชนีชะลอแถวระดับจิตวิทยาที่ 1400 จุดก่อนเทรดไซด์เวย์ต่อ ทัง้นี้ ปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่งบไตรมาสแรกของกลุ่มธนาคาร ซึ่งน่าจะชี้ทิศราคาหุ้นกลุ่มนี้ในระยะถัดไป
เก็งกำไร EPG/สะสม BTS