SET ปรับขึ้นต่อทดสอบด่าน 1,420 สะสม 12 หุ้นรับอานิสงส์นโยบายรัฐ

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.83 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ทะยานขึ้นหลังเงินเยนอ่อนค่า ขณะเดียวกันยังได้รับแรงบวกจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นต่อ ลุ้นผ่านด่านแรก 1420 จุด โดยคาดตลาดมีปัจจัยบวกจากกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนกระทั่งรอบเช้าวันนี้ ขณะที่กลุ่มรับเหมายังมีปัจจัยบวกจากรัฐเร่งกระตุ้นนโยบายโครงการก่อสร้างพื้นฐาน 

สำหรับหุ้นเด่นเลือก SCC, CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, ADVANC, ANAN, IRPC,ITD, COM7, SMT, BTS

 

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) ยังมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้ SET น่าจะ Sideways และอาจจะถูกขายเป็นระยะๆ หลังปรับขึ้นมา 5 วันติดต่อกัน และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตามหุ้น Blue chips จะยังคงนำตลาด เนื่องจาก SCC (เป้า 520) และ ADVANC (เป้า 180 บาท ที่รวมกรณีได้ใบอนุญาต 4G 900Mhz) ยังมีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันคาดว่าทรงตัวหลังราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าค่อนข้างนิ่ง ขณะที่รายงานผลประกอบการ 1Q16 ของกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่ชะลอตัวตามคาด ซึ่งก็ไม่น่าจะมีผลต่อราคาหุ้นกลุ่มธนาคารเท่าไรนัก

ส่วนกลุ่มสื่อสารนั้นต้องรอประมูล 4G ปลายเดือนพ.ค แต่แนะนำ ซื้อ ADVANC เนื่องจากราคาหุ้นปรับลงกว่า 13% หลังนักลงทุนกังวลต่อปันผลที่จะลดลงหากได้ใบอนุญาต 4G 900Mhz (หรือมี Market cap หายไปประมาณ 75,000 ล้านบาท เท่ากับมูลค่าของใบอนุญาต 4G ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะเหมือนกับว่าใบอนุญาตนี้ไม่มีมูลค่าเลย) อย่างไรก็ตามหากได้ใบอนุญาต 4G จริงเราคาดว่าจะทำให้กำไรของ ADVANC ลดลง 8.5% ในปีนี้และ 13.3% ในปีหน้า และราคาเป้าหมายถูกปรับลงเหลือ 180 บาทจาก 210 บาท แต่ก็ยังสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัวและขายเมื่อขึ้นแรง

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: SCC (หาก PTT 300 บาท SCC ต้องไม่ต่ำกว่า 500 บาทในเชิงสถิติในอดีต) ADVANC (มีโอกาสรีบาวด์ต่อเนื่องหลังปรับลงแรงก่อนหน้านี้)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) แม้อาจมีแรงขายบ้างที่แนวต้าน 1,420 จุด แต่คาดว่าจะสามารถผ่านไปได้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) กระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง หลัง Bond Yield ต่ำทั่วโลก 2) การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ก่อนการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ เดือน ส.ค.นี้ ล่าสุด ครม.เห็นชอบลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม 8.3 หมื่นล้านบาท เปิดประมูลกลางปีนี้ 3) ราคาน้ำมัน Brent ฟืนตัว US$1.12 หนุนกลุ่มพลังงานอย่าง PTT PTTEP และ PTTGC (หุ้นเล่นในกลุ่มพลังงานยังชอบ SGP)

แนะนำ “ซื้อ” SCC CK STEC UNIQ (แนะนำ “ซื้อ” เข้า Tactical Portfolio โดยคาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ จะกลับมา Outperform ตลาด) และ SEAFCO (ได้ประโยชน์จากโอกาสรับงาน Sub-Contract ฐานรากรถไฟฟ้าสายสีส้ม เนื่องจากเป็นรถไฟใต้ดิน)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิด +1.23 % ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 5.7 หมื่น ลบ. สถาบันและพอร์โบรกเกอร์เป็นผู้ซื้อสิทธิหลัก ส่วนต่างชาติยังคงมีสถานะ Long ใน Index Futures อีก 4 พันสัญญา ตลาดหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าจาก Fund Flows ที่ไหลเข้า ส่วนการประชุม ครม. วานนี้ได้อนุมัติการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรดา และอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องเช่น กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET มีโอกาสวิ่งขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,420 – 1,430 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,400 จุด  ระยะสั้นแนะนำขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน  แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มรับเหมา ITD , CK , STEC , UNIQ ( + งบโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มทยอยออกมา )

 

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) คาดดัชนีวันนี้ขึ้นต่อเป็นวันที่ 6 และน่าจะมีนิวไฮ คาดหุ้นพลังงานนำดัชนีขึ้นหลังราคาน้ำมัน +2.3% เมื่อคืน และอีก 1.9% เช้านี้ สะท้อนคนงานคูเวตนัดหยุดงาน ขณะที่หุ้นกลุ่มหลักอื่นๆ อาจชะลอหลังงบ BBL ต่ำคาดและกลุ่มสื่อสารยังมีแรงกดดันจากการประมูล 900MHz ในปลายพ.ค.นี้ ด้านปัจจัยภายนอกยังเป็นบวก หลังดอลลาร์ ลงต่อ สะท้อนตัวเลขเริ่มสร้างบ้านสหรัฐต่ำคาด และงบโกลด์แมน แซค สูงกว่าคาด ส่วนปัจจัยบวกภายในมองความคืบหน้าของรถไฟสายสรส้มเป็นสำคัญ ภาพรวม sentiment ช่วงสั้นยังดีแต่คงมุมองว่าทางขึ้นมีจำกัดแล้ว อิงเป้าระยะสั้นจาก PE band ที่ 1435 และเป้าปี 2559 ที่ 1450 ส่วนปัจจัยเสี่ยง มองยอดสะสมพอร์ต บล.ช่วงสองวันที่ 3.7 พันล้านบาท อาจพลิกมาเป็นตัวกดดัน SET

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร COM7/SMT สะสม BTS

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) เมื่อดัชนี SET ขึ้นมายืนเหนือ 1400 จุดอีกครั้ง แนวโน้มต่อไป มองว่าสภาพการเทรดจะเต็มไปด้วยความผันผวนและเร็วขึ้น หุ้นที่จะกลับมาเล่นจะเริ่มเป็นหุ้นเล็กแถว 2 และ 3 แทนหุ้นแถว 1 เนื่องจากหุ้นใหญ่ในแถว 1 ราคาหุ้นส่วนใหญ่ขึ้นมาสูง

ขณะที่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่าง ท่าอากาศยาน การบิน โรงแรม ขนส่งหรือ ปิโตรเคมี ค้าปลีก โรงพยาบาลและสื่อสารเล็ก อาจจะเผชิญกับแรงขายหลังดีดตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหุ้นที่จะเทรดกันในเดือน พ.ค. จะกลับมาเป็นหุ้นที่ผลการดำเนินงาน Q1/16 ออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ตามหากเราคาดผิด คือดัชนีสามารถขึ้นทะลุ 1420 จุดแล้วยืนเพื่อไปต่อ กลุ่มที่จะเป็นตัวหนุน เรามองว่ามีแค่กลุ่มเดียวที่จะหนุนให้ไปต่อคือ พลังงานและปูนใหญ่ (SCC) แต่มีข้อแม้ว่าราคาน้ำมันต้องไม่ลง หรือขึ้นต่อแรงหนุนภายในคือ แนวโน้มกำไร Q1/16 ออกมาดีขึ้น

ทิศทางดัชนี SET ช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์นี้ จะเริ่มเต็มไปด้วยความผันผวน ทั้งจากที่เกิดจากภายนอกและงบของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้ดัชนี SET แกว่งในกรอบที่กว้างขึ้น วันนี้เปิดขึ้นมาดัชนี SET ยังได้รับหนุนจาก ราคาน้ำมันและตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่อาจต้องแผชิญกับแรงขายหลังขึ้นมาติดต่อกันประมาณ 70 จุด ดังนั้นเราจึงแนะนำ หากดัชนีขึ้นทะลุ 1420 จุด ให้ทยอยลดพอร์ตการลงทุน โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1424-1428 จุด ส่วนแนวรับที่ 1410-1405 จุด หุ้นแนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ ANAN และ IRPC