SET ไซด์เวย์ ชู 4 กลุ่มหลักเติบโตดีปีนี้ช้อน 9 หุ้น Laggard มีแวว Outperform

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวหลังหุ้นน้ำมันอาจลดความร้อนแรงตามตลาดน้ำมันที่ปรับฐานเล็กน้อยและจะถูกแรงขายกำไรเป็นระยะๆ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้แนะนำซื้อกลุ่มหุ้นที่ยัง Laggard ตลาด อย่างกลุ่มรับเหมาฯ โดยคาดว่าจะ Outperform ตลาดโดยธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปีนี้ได้แก่ ท่องเที่ยว โรงพยาบาล สินเชื่อรายย่อย และ รับเหมาก่อสร้าง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.26 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.02 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นญี่ปุ่นหลังเงินเยนแข็งค่า รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงกว่า 2%

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวหลังหุ้นน้ำมันอาจลดความร้อนแรงตามตลาดน้ำมันที่ปรับฐานเล็กน้อยและจะถูกแรงขายกำไรเป็นระยะๆ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้แนะนำซื้อกลุ่มหุ้นที่ยัง Laggard ตลาด อย่างกลุ่มรับเหมาฯ โดยคาดว่าจะ Outperform ตลาดโดยธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปีนี้ได้แก่ ท่องเที่ยว, โรงพยาบาล, สินเชื่อรายย่อย และ รับเหมาก่อสร้าง

หุ้นเด่นเลือก SGP-SEAFCO-SCC-CK-STEC-UNIQ-SUPER-PSTC และTWPC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย.) ว่าการปรับลดลงของ Dow Jones -0.63% และการย่อตัวของราคาน้ำมันอาจทำให้ SET แกว่งตัวบ้าง แต่ไม่ทำให้มุมมอง “บวก” เปลี่ยนไป คงเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,430-1,460 จุด เหมือนเดิม ล่าสุดรายงาน Siam Senses มอง Bond Yield ต่ำ, เศรษฐกิจที่กลับมาเติบโตได้สูงกว่า 4% ตั้งแต่ปีหน้า จะเป็นปัจจัยบวกต่อ SET ในระยะกลาง-ยาว ด้วยเป้าหมาย SET สิ้นปีนี้ที่ 1,550 จุด (เดิม 1,450 จุด)

ทั้งนี้แนะนำซื้อกลุ่มหุ้นที่ยัง Laggard ตลาด อย่างกลุ่มรับเหมาฯ โดยคาดว่าจะ Outperform ตลาดในระยะสัปดาห์ รวมไปถึง SGP ที่แม้ราคาจะปรับขึ้นแรงเมื่อวานนี้ แต่ยัง Laggard PTT กับ PTTEP มาก

1) กลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง ได้รับผลดีจากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่กลางปีนี้: SCC CK STEC UNIQ และ SEAFCO  (ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 13.50 บาท)

2) Turnaround & Growth Plays: SGP  ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59อาจไม่ดี แต่จะเป็นจุดต่ำสุดของปี PE ปีนี้ต่ำ 6.2x

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย.) ว่าทิศทางดัชนี SET วานนี้ (21 เม.ย.) ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ระดับ 1,430 จุดได้ ส่งผลให้ทิศทางการซื้อขายวันนี้มีโอกาสแกว่งตัว โดยวางจุด Trailer Stop Loss ไว้ที่ระดับ 1,400 – 1,410 จุด  หากยืนได้ยังแนะนำเก็งกำไรตามโมเมนตัมบวกของทิศทาง  Fund Flow  ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร SUPER , PSTC ( +โซล่าร์ฟาร์มสหกรณ์ )

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย.) คาด SET วันศุกร์ทรงตัว/ลงกรอบจำกัด หลังขึ้นแรงหลายวัน (วานนี้บวกต่อ ตามคาด) โดยดัชนีฯ น่าจะไซด์เวย์หลังหุ้นน้ำมันอาจลดความร้อนแรงตามตลาดน้ำมันที่ปรับฐานเล็กน้อย

ขณะที่ตลาดหุ้นหลักในต่างประเทศลดลงตามตลาดน้ำมัน รวมทั้งจากข่าวสารในฝั่งยุโรปซึ่ง ECB คงดอกเบี้ยนโยบายและคงมาตรการ QE ไว้ที่ระดับเดิมคือ 8.0 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนหุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐษน เก็.กำไร TVD ,ASEFA สะสม BTS

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย.) คาด SET ผันผวนภายใต้ราคาน้ำมันล่าสุดปรับลดลง จากการที่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ออกมาส่งสัญญาณจะเพิ่มปริมาณผลิต คาดส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานคาดอาจมีการขายทำกำไรออกมา หลังในช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นรับกับราคาน้ำมัน

ขณะที่ผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป – ECB ไม่มีการส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป

ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังมีสัญญาณที่ดี จาก Fund Flow ภายใต้เงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า คาด Fund Flow ยังมีโอกาสไหลกลับเข้ามา รวมถึงแรงเก็งกำไรผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ที่คาดมีต่อเนื่องถึงกลางเดือน พ.ค.59หุ้นแนะนำ TWPC

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย.) ว่ายังมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้ SET น่าจะ Sideways ตามตลาดหุ้นภูมิภาคและจะถูกแรงขายกำไรเป็นระยะๆ หลังปรับขึ้นแรงต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มน้ำมันวันนี้ได้ผลลบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแต่ไม่มาก กลุ่มแบงก์มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลัง BBL และ KBANK ประกาศนำร่องลดดอกเบี้ย MRR 0.25% และรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/59 ของกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ที่ชะลอตัวจากปีก่อน และยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องในไตรมาส 2/59 จากผลกระทบของการปรับลดดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตามสัปดาห์หน้าตลาดอาจเผชิญกับแรงกดดันจากการประชุมเฟดในวันที่ 26-27 เม.ย แต่จะไม่มาก อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ค่อยๆฟื้นตัวต่อเนื่องจากตัวเลขส่งออกที่ดีขึ้นและสภาพคล่องในระบบที่มีอยู่สูงจะยังคอยเป็นตัวพยุงตลาดไม่ให้ปรับลงแรง เราเชื่อว่าหุ้นกลุ่มนำตลาดยังเป็นหุ้นกลุ่ม Blue chips

สำหรับกลยุทธ์วันนี้ Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว หุ้นเก็งกำไรระยะสั้นASEFA (คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/59 โตเท่าตัวเมื่อเทียบจากปีก่อนแนะนำ ซื้อ/เป้า 6.9 บาท)อีกทั้งธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปีนี้ ท่องเที่ยว โรงพยาบาล สินเชื่อรายย่อย และ รับเหมาก่อสร้าง 

Back to top button