SET แกว่งแคบ-จับตาผลประชุมเฟดชู 12 หุ้นมีปัจจัยหนุนลุ้นกำไร Q1 เด่น
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบ โดยตลาดยังรอผลการประชุม FED และ BOJ ซึ่งหากออกมาในทิศทางผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง น่าจะส่งผลบวกให้ดัชนี SET วิ่งขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,430 – 1,450 ได้ในสัปดาห์หน้า
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.04 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.11 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียแทบทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบ โดยตลาดยังรอผลการประชุม FED และ BOJ ซึ่งหากออกมาในทิศทางผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง น่าจะส่งผลบวกให้ดัชนี SET วิ่งขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,430 – 1,450 ได้ในสัปดาห์หน้า
หุ้นเด่นวันนี้เลือก ได้แก่ SAWAD, MTLS, DIF, CPNRF, KTC, BIG, GLOBAL, HMPRO, ITD , CK , STEC , NWR
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) ว่าราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น US$1.26 ปิดที่ US$45.75/bbl ใกล้จุดสูงสุดของปี สะท้อนค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อคืนนี้ ก่อนการประชุม FOMC ที่คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 0.25-0.50% ต่อไป และ Implied Fed Fund Futures มองโอกาสต่ำเพียง 20% เท่านั้นที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.นี้ คงเป้าหมาย SET ระยะสัปดาห์ที่ 1,430-1,460 จุด ต่อไป ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) Fed จะยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน เม.ย. และ มิ.ย.นี้ และ 2) สภาพคล่องของตลาดเงิน-ทุนโลก ยังสูงจากเม็ดเงิน QE ของ BOJ และ ECB
ทำอะไรดี แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 1Q16 ออกมาดี (Earnings Play) และได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำ SAWAD MTLS DIF CPNRF
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) ว่า ดัชนี SET เมื่อวานนี้ ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจอย่าง ตัวเลขส่งออกที่ออกมาในเชิงบวกเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งภาวะการส่งออกที่เป็นบวก ถือว่ายังต้องติดตามกันต่อเพราะตัวเลขของประเทศคู่ค้าทั้งในเอเชียส่วนใหญ่ยังไม่ดีขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่ขึ้นได้ดีในช่วง Q2/16 ถึงปัจจุบันคือ ปิโตรเคมี พลังงาน เกษตร และโรงพยาบาล ส่วนที่ติดลบคือสื่อสาร ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ และธนาคาร ทิศทางดัชนี SET ในช่วงกลางถึงปลายอาทิตย์คาดจะยังอยู่ในภาวะซึมๆ คือแกว่งตัวในกรอบแคบๆ จนกว่าจะเห็นปัจจัยทั้งเชิงบวกและลบ
โดยวันนี้มองดัชนี SET จะซึมขึ้น แต่ไม่มากเพราะจะมีแรงขายกำไรออกมา จนดัชนีติดลบโดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1423-1427 จุด ส่วนแนวรับที่ 1412-1408 จุด กลยุทธ์การลงทุนยังคงเป็นการเลือกหุ้นรายตัวทั้งจากผลการดำเนินงาน Q1 ออกมาดีกว่าคาด หรือ มีการปรับค่า EPS หรือ มีการปรับราคาเป้าหมาย ในจำนวนนี้ที่น่าสนใจมี 2 ตัว คือ GLOBAL และHMPRO
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) ว่าตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิด +0.71 % ปริมาณการซื้อขายปานกลาง 4.3 หมื่น ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์เป็นผู้ซื้อสุทธิหลัก 1.7 พัน ลบ. แต่ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น , ตลาดพันธบัตร รวมถึงมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 2.4 พันสัญญา ซึ่งสะท้อนการลดพอร์ตเพื่อรอดูผลการประชุม FED และ BOJ ในสัปดาห์นี้ วานนี้ ครม. ได้อนุมัติโครงการรถไฟทางคู่สายประจวบ – ชุมพร และให้เร่งรัดการประมูลในอีก 3 เส้นทาง
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดยังรอผลการประชุม FED และ BOJ ซึ่งหากออกมาในทิศทางผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง น่าจะส่งผลบวกให้ดัชนี SET วิ่งขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,430 – 1,450 ได้ในสัปดาห์หน้า โดยวางจุด Trialing Stop Loss ไว้ที่ดัชนีระดับ 1,400 +/- จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ITD , CK , STEC , NWR (+ รับการประมูลโครงสร้างพื้นฐานในครึ่งปีหลัง )
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) ว่าคาดดัชนีวันนี้บวกกรอบแคบ แต่อาจมีแรงขายปลายตลาดก่อนผลประชุมเฟดคืนนี้ หุ้นน้ำมันและหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์น่าจะนำ SET หลังดัชนีเงินดอลล่าร์ที่อ่อนต่ออีก รวมทั้งแรงส่งเศรษฐกิจที่ยังดูดีในระยะสั้น ยังหนุนวงจรราคาด๓คภัณฑ์โลก ขณะที่ราคาน้ำมัน Wti+3.8% เมื่อคืนระดับสูงสุดรอบ 5 เดือน
อย่างไรก็ดี วานนี้ต่างชาติขาย ทั้ง 3 ตลาดหลัก จึงมองทางขึ้นของดัชนียังจำกัด ผนวกหับเทรดเดอร์บางส่วนอาจลดสถานะก่อนรู้ผลประชุม ธ.กลางสหรัฐ คืนวันนี้ และหุ้นเอเชียเหนือที่เชื่อมโยงกลุ่ม tech อาจถูกกดดันบ้าง หลัง Apple Inc เพิ่งแจ้งงบการเงินต่ำกว่าคาด ทั้งนี้คงมุมมองดัชนีรอบนี้มีทางขึ้นที่ 1435 จุดอิงพีอีที่ 18 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่มักจะส่งผลให้ SET ปรับฐานสั้น
หุ้นเด่นเก็งกำไร SMT-TVD
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (21 มี.ค.) ยังมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้ SET น่าจะ Sideways up ทดสอบ High เดิม จากสภาพคล่องในระบบที่อยู่ในระดับสูง หุ้น Blue Chips จะนำตลาดอย่าง SCC ที่คาดงบ 1Q16 จะออกมาดี PTT และ PTTEP ก็ขานรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น กลุ่มแบงก์น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากลงแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดีหุ้นขนาดเล็กอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังปรับขึ้นแรงก่อนหน้านี้ สำหรับผลประชุมเฟดคืนนี้น่าจะมีเซอร์ไพส์ตลาดในเชิงบวก คือนอกจากไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้วอาจมีการปรับลดคาดการณ์จีดีพีสหรัฐและยังไม่มีสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย หรืออาจเลื่อนออกไปเป็นปลายปีแทน ซึ่งจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อเนื่อง
กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: KTC (รายได้ยอดใช้บัตรเครดิตเติบโตดีต่อเนื่อง), BIG (แนวโน้มกำไรดีกว่าคาดมาก)