SET ผันผวนตามตลาดหุ้นทั่วโลกเก็บ 16 หุ้นปลอดภัย-ความเสี่ยงจำกัด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่กลับมากังวลต่อภาวะเศรษกิจโลกที่อาจชะลอตัวหลัง PMI จีนเดือนเม.ย ต่ำกว่าคาดขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติมักจะไหลออกพร้อมค่าเงินที่อ่อนตัว


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 8.56 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.10 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 2.5% อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด จากรายงานที่ว่าประเทศตะวันออกกลาง รวมถึงอิหร่าน ผลิตและส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่กลับมากังวลต่อภาวะเศรษกิจโลกที่อาจชะลอตัวหลัง PMI จีนเดือนเม.ย ต่ำกว่าคาดขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติมักจะไหลออกพร้อมค่าเงินที่อ่อนตัว

หุ้นเด่นวันนี้เลือก ได้แก่ CENTEL, BH, CPNRF, DIF, MAJOR, MINT, KTC, GUNKUL, TKS, WHA, SPALI,TVO, AAV, BA, BDMS และ VIBHA

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (4 พ.ค.) ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงจาก 1) ราคาน้ำมันปรับตัวลง จากความกังวลว่ากลุ่มประเทศตะวันออกกลางเริ่มผลิตน้ำมันส่งออกเพิ่มขึ้น 2) ตัวเลข PMI ของจีนเริ่มแผ่วลง คาด SET ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นโลก และมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนตลอดเดือน พ.ค. สอดคล้องกับค่าสถิติที่เดือน พ.ค. ที่ผลตอบแทนของ SET มักจะแย่ (ดูรายงาน Pathumwan Corner วันที่ 29 เม.ย.) ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติมักจะไหลออกพร้อมค่าเงินที่อ่อนตัว อย่างไรก็ดี มองการ “พักฐาน” ของ SET จะไม่หลุด 1,370-80 จุด ก่อนที่จะปรับสูงขึ้น กลับไปที่เป้าหมายระยะสัปดาห์บริเวณ 1,430-1,460 จุด ต่อไป

ยังคงแนะนำ “เลือกซื้อ” กลุ่มหุ้นที่มีความเสี่ยงจำกัด

1) หุ้น turnaround play เช่น KTC (งบ 1Q16 ดี คาด turnaround ต่อ) SGP (งบ 1Q16 จะต่ำสุดในปี ก่อนจะ turnaround อย่างชัดเจน)

2) หุ้นที่จากสถิติมีโอกาสปรับขึ้นในเดือน พ.ค. เช่น  CENTEL BH CPNRF DIF MAJOR MINT

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (4 พ.ค.) ว่า เปิดขึ้นมาในเดือน พ.ค. สภาพตลาดหุ้นในเอเชีย ยังเผชิญแรงขายเกือบทุกตลาดไม่เว้นญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง แล้วเข้าไปใน สินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังค่าเงินเยนญี่ปุ่นแข็งตัว ตัวเลขเศรษฐกิจจีน (ภาคโรงงานหดตัวเป็นเดือนที่14 ติดต่อกัน) ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษ หดตัวต่ำสุดในรอบ 3 ปี และการขึ้นดอกเบี้ยของออสเตรเลีย(เหนือความคาดหมายของตลาด) สะท้อนเศรษฐกิจยังชะลอตัว

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงหยุดยาวอีกครั้ง มองว่าดัชนีจะยังเผชิญกับความผันผวนของตลาดหุ้นในต่างประเทศ ราคาน้ำมันและผลการดำเนินงาน โดยแนวโน้มวันนี้ เปิดขึ้นมาจะอ่อนตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศและแรงขายหุ้นพลังงาน โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1402-1406 จุด ส่วนแนวรับที่ 1390-1385 จุด หุ้นแนะนำ เล่นเก็งกำไร คือ SPALI และ TVO

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (4 พ.ค.) ว่าตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.48% ปริมาณการซื้อขายชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.3 หมื่น ลบ.สถาบันขายสุทธิ 722 ลบ.ต่างชาติซื้อสุทธิ 438 ลบ. และเฮดจิ้งใน Index Futures มีสถานะ Short ใน Index Futures 730 สัญญา ภาวะการซื้อขายค่อนข้างชะลอตัวเนื่องจะเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดอีก 2 วันทำการ

ประเมินแนวโน้มดัชนี SET มีโอกาสชะลอตัวรับปัจจัยลบภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว กลยุทธ์การลงทุน วางรับแนวรับไว้ที่ 1,390 +/- จุด หากดัชนียืนไม่ได้มีโอกาสปรับฐานลงสู่ระดับ 1,370 – 1,380 จุด ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร AAV (+ ผลประกอบการ, ราคาน้ำมันลดลง) / GUNKUL, TKS, WHA (+ สัญญาณบวกทางเทคนิค)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (4 พ.ค.) SET น่าจะผันผวนตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมากังวลต่อภาวะเศรษกิจโลกที่อาจชะลอตัวหลัง PMI จีนเดือนเม.ย ต่ำกว่าคาดและออสเตรเลียปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกของปีนี้ หุ้นกลุ่มน้ำมันจะยังหน่วงตลาด สำหรับกรณี Sell in May จะเป็นจังหวะเข้าสะสมรอบใหม่ อย่างไรก็ตามคาดว่า Sell in May จะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นหลังตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคปรับขึ้นมาตั้งแต่เดือนก.พ. และพยายามทำสถิติสูงสุดใหม่เท่านั้น ปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงของตลาดในช่วงนี้จะอยู่ที่ ค่าเงินเยนและยูโรที่แข็งค่ามากกว่าปกติ หลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากเฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: AAV BA (ได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบขาลง), BDMS VIBHA (Defensive stock)

 

Back to top button