SETบ่ายพักฐานต่อแนวต้าน 1,400กูรูเน้นหุ้น Defensive ชู 3 ตัวเด่น

SETบ่ายพักฐานต่อแนวต้าน 1,400 แนะเลือกหุ้น Defensive เช่น กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, LPH และหุ้น COM7


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (10 พ.ค.) ปรับฐานเป็นปกติที่เดือนพ.ค.การซื้อขายจะซบเซา ปัจจัยพื้นฐานไร้เรื่องใหม่ ขณะที่ราคาน้ำมันกลับมาปรับลงอีกครั้ง ขณะที่มีแรงขายในลักษณะ sell on fact หลังบจ.หลายแห่งทยอยประกาศงบไตรมาส 1/59 ต้องติดตาม กนง.พรุ่งนี้คาดคงดอกเบี้ย ให้แนวรับ 1,390 และ 1,380 จุด แนวต้าน 1,400 จุด แนะเลือกหุ้น Defensive เช่น กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, LPH และหุ้น COM7

 

นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เป็นลักษณะปรับฐานเนื่องจากปกติในช่วงเดือน พ.ค.ของทุกปีการซื้อขายในตลาดฯ มักจะซบเซา

ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาหนุน แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้นมามากทำให้หุ้นกลุ่ม Commodity ช่วยประคองตลาดไว้ แต่วันนี้ราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวลงจึงฉุดหุ้นพลังงานลงอีกรอบ

ส่วนผลประกอบการบริษัทจดมะเบียน (บจ.) หลายแห่งที่ประกาศออกมาไม่ว่าจะดีกว่าคาด ตามคาด หรือต่ำกว่าคาด ก็มักจะมีการ sell on fact หรือ take profit ออกมา

ช่วงบ่ายวันนี้ให้แนวรับ 1,390 และ 1,380 จุด แนวต้าน 1,400 จุด แต่คิดว่าเดือนนี้คงไม่ทะลุ 1,400 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 11 พ.ค.คาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยตามเดิม เพราะขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงน่าจะเก็บกระสุนไว้ใช้ในยามจำเป็น

คำแนะนำลงทุนเลือกหุ้น Defensive หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เช่น BDMS, LPH รวมถึงหุ้น COM7 ที่ประเด็นบวกเข้ามาจากคาดการณ์ว่าจะมีการออกไอโฟนรุ่นใหม่

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ค.) ว่า SET พักฐานต่อไป ขณะที่กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ได้แก่ 1) สถิติในอดีตบ่งชี้ว่าจะปรับสูงขึ้นในเดือน พ.ค. และ แนะนำ “ซื้อ” MINT CENTEL BDMS BH CPNRF DIF และ “เก็งกำไร” CPALL และ 2) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำ อย่าง SAWAD MTLS และ KTC

Fed มีแนวโน้มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยต่อไป หลัวตัวเลขการจ้างงานล่าสุดอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ Bond Yield อายุ 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลดลงต่ำกว่า 1.80% อีกครั้ง

ขณะที่การประชุม กนง.วันที่ 11 พ.ค. นี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 1.50% ต่อไป และมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยต่ำตลอดปี เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม Micro Finance และบัตรเครดิต อย่าง SAWAD MTLS และ KTC (เป้าหมายพื้นฐาน 110 บาท คาดการณ์กำไรเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปีช่วง 2016-19 ที่ PE 10.5x และ Dividend Yield 4-4.6% ยังน่าสนใจ) ล่าสุดราคาหุ้น KTC เริ่มฟื้นตัวจากแนวรับกรอบ Uptrend Channel แนวต้าน 95.75 หรือถัดไปที่ 97.50 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 1,097.86 ล้านบาท ปิดที่  47.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

PTT    มูลค่าการซื้อขาย   818.49 ล้านบาท ปิดที่ 294.00 บาท ลดลง  5.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย   817.96 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

AOT    มูลค่าการซื้อขาย   746.34 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท ลดลง  6.00 บาท

SCC    มูลค่าการซื้อขาย   673.56 ล้านบาท ปิดที่ 494.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

Back to top button