SETบ่ายแกว่งแคบแนวต้าน 1,400โบรกชู 3 ปัจจัยบวกหนุน 12 หุ้นเด่น

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (11 พ.ค.) แกว่งแคบ คล้ายคลึงกับตลาดภูมิภาคที่ช่วงเช้าดัชนีฯยืนในแดนบวกได้ตามดาวโจนส์ แต่ในเวลาต่อมาก็ลดช่วงบวกลง แม้จะได้แรงผลักดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แต่ตลาดฯยังเปราะบาง หลังปัจจัยบวก-ลบ ไม่มีอะไรชัดเจน บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งในกรอบ พร้อมให้แนวรับ 1,380 แนวต้าน 1,400 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ โดยในช่วงเช้าดัชนีฯสามารถยืนในแดนบวกได้ตาม Sentiment จากนอกประเทศ จากที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้าบวกตามดาวโจนส์เป็นส่วนใหญ่ แต่ในเวลาต่อมาก็ลดช่วงบวกลง โดยปัจจัยที่ผลักดันตลาดฯมาจากราคาน้ำมันที่ยังมีแกว่งขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ ซึ่งมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความเปราะบาง เนื่องจากปัจจัยทั้งในแง่บวก-ลบยังไม่มีอะไรชัดเจน

อย่างไรก็ดี ในช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/59 ของบริษัทจดทะเบียนอาจจะมาช่วยหนุนดัชนีฯได้บ้าง แต่ทั้งนี้หากมองในแง่ของ Valuation ของตลาดฯก็ถือว่าไม่ถูกมาก ดังนั้นเมื่อหุ้นปรับตัวขึ้นไปก็ให้ระวังแรงขายทำกำไรด้วย

พร้อมให้ติดตามดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ แม้คาดว่าจะไม่มีอะไร Surprise ก็ตาม เพราะคาดว่ากนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน  แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบ พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด  ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 พ.ค.) ว่าแม้การปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้น Dow Jones และการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของ SET ช่วงเปิดตลาด แต่แรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารทำให้การปรับสูงขึ้นของ SET ยังเป็นไปอย่างจำกัด

ขณะที่เรายังให้น้ำหนักต่อการ “พักฐาน” ของ SET ในเดือน พ.ค.ยังแนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นที่ 1) ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำ MTLS GL SAWAD KTC 2) จากข้อมูลสถิติให้ผลตอบแทนดีในเดือน พ.ค. MINT CENTEL BDMS BH และ 3) ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ออกมาดี อย่าง BEAUTY GLOBAL SAWAD MTLS

คาด กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% วันนี้ และคาดว่าดอกเบี้ยในประเทศจะอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม Micro Finance และบัตรเครดิต อย่าง SAWAD MTLS และ KTC (เป้าหมายพื้นฐาน 110 บาท – คาดการณ์กำไรเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปีช่วง 2016-19 ที่ PE 10.5x และ Dividend Yield 4-4.6% ยังน่าสนใจ) ล่าสุดราคาหุ้น KTC เริ่มฟื้นตัวจากแนวรับกรอบ Uptrend Channel แนวต้าน 95.75 หรือถัดไปที่ 97.50 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

TKN    มูลค่าการซื้อขาย 1,371.53 ล้านบาท ปิดที่ 13.60 บาท เพิ่มขึ้น 2.70 บาท

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย1,109.57 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง  2.50 บาท

IVL    มูลค่าการซื้อขาย   801.79 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

BEM    มูลค่าการซื้อขาย   670.79 ล้านบาท ปิดที่   6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย   614.61 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท ลดลง 0.50 บาท