SETบ่ายแกว่งตัวทั้งบวก-ลบชู SGP เด่น High Growth

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (13 พ.ค.) แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ ดูดีกว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ติดลบ หลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเริ่มไม่แน่นอน ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน ช่วงนี้ตลาดต่างประเทศก็เป็นช่วงประกาศงบฯเช่นกัน ขณะที่ตลาดบ้านเรารับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มปิโตรฯ นำโดยหุ้น IVL ส่วนกลุ่มแบงก์-สื่อสารยังถ่วง บ่ายนี้คาดตลาดฯแกว่งทั้งบวก-ลบในกรอบ 1,395-1,405 จุด

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่ ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ติดลบ ปัจจัยนอกประเทศเริ่มมีความไม่แน่นอนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เห็นได้จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มฟื้นขึ้นมาแล้ว ทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ขณะที่เศรษฐกิจของจีนก็ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจนแต่ Currency เริ่มนิ่ง และช่วงนี้ต่างประเทศเองก็อยู่ในช่วงของการประกาศผลประกอบการเช่นเดียวกับบ้านเรา

ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อที่เข้ามาที่หุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีที่มีการฟื้นตัวขึ้นตามราคาน้ำมันฟื้นและคาดผลประกอบการงวดไตรมาส 2/59 ดีต่อเนื่อง นำโดยหุ้น IVL จึงเกิดแรงซื้อรายตัว ส่วนกลุ่มแบงก์ยังฉุดตลาดเล็กน้อยจากความกังวลตัวเลข NPL และกลุ่มสื่อสาร นำโดย ADVANC ยังถ่วงจากการประมูลคลื่น 900 MHz รอบใหม่ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะยังเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในกรอบ 1,395-1,405 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (13 พ.ค.) ว่า เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวหลังกลับมายืนเหนือ 1,400 จุด…การ “พักฐาน” ของ SET อาจจบเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น, FED ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และกำไรไตรมาส 1/59 ที่ทยอยออกมาไม่ได้แย่อย่างที่กังวลไว้ก่อนหน้าเป็นปัจจัยหนุน SET ระยะสัปดาห์ไปที่ 1,430-1,460 จุด

“ซื้อ” SGP ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 18.60 บาท จาก 1) กำไรไตรมาส 1/59 ที่ 40 ล้านบาท ที่กว่าที่เราคาด ด้วยสัดส่วนลูกค้าปลีกเพิ่มขึ้นส่งผลอัตราทำกำไรปกติสูงขึ้น 2) ธุรกิจก๊าซ LPG ในประเทศจีนยังคงเติบโตสูง โดยยอดนำเข้า LPG ของจีนในไตรมาส 1/59 เติบโต 70% จากการเพิ่มขึ้นของโรงงาน PDH และคาด Utilization Rate อาจเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาส 2/59

 เนื่องจากโรงงานที่ใช้ feed จากน้ำมันมีต้นทุนสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน 3) High Growth ด้วยแนวโน้มการเติบโตกำไร 60% ปีนี้ ที่ 1.85 พันล้านบาท ทำให้แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นมาแล้วตั้งแต่ต้นปี แต่ยังมี PE ต่ำเพียง 6.1x เท่านั้น และ PBV ที่ 1.1x 4) ธุรกิจก๊าซในประเทศยังสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ พร้อม Upside Risk จากการเปิดเสรีนำเข้า LPG ในปีหน้า และ 5) เมื่อพิจารณาในทางเทคนิคราคาหุ้นตั้งหลักฟื้นตัวขึ้นได้ดีจากแนวรับมีเป้าหมายถัดไปที่ 12.70 / 13.00 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

IVL    มูลค่าการซื้อขาย 1,073.70 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

JAS    มูลค่าการซื้อขาย 1,004.21 ล้านบาท ปิดที่ 4.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท

CPF    มูลค่าการซื้อขาย   867.38 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 744.57 ล้านบาท ปิดที่  48.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

PTT    มูลค่าการซื้อขาย   623.36 ล้านบาท ปิดที่ 305.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง