ชง 8 หุ้นรายตัวลุ้นปันผลเด่นSET แกว่งแคบ-รอปัจจัยใหม่

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ ไร้ปัจจัยใหม่มาสนับสนุน รวมไปถึงโอกาสที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นจะมากดดัน SET อีกครั้ง ส่วนสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลขส่งออกรถยนต์ในวันนี้หรือพรุ่งนี้และตัวเลชส่งออกไทยเดือนเม.ย. ที่ตลาดคาดว่าน่าจะยังเป็นบวก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.11 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.61 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนตัวผันผวนในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาดูสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด 

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ ไร้ปัจจัยใหม่มาสนับสนุน รวมไปถึงโอกาสที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นจะมากดดัน SET อีกครั้ง ส่วนสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลขส่งออกรถยนต์ในวันนี้หรือพรุ่งนี้และตัวเลชส่งออกไทยเดือนเม.ย. ที่ตลาดคาดว่าน่าจะยังเป็นบวก

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้เลือก ได้แก่ CSS, SCI, INET, ADVANC, INTUCH, LH, JASIF, TVO

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (23 พ.ค.) ว่าBond Yield 10 ปี ไทยปรับสูงขึ้นมาที่ 2.1% รวมไปถึงโอกาสที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น กดดัน SET อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงมุมมองบวกระยะสัปดาห์ต่อไป จาก 1) เศรษฐกิจดีกว่าคาดใน 1Q16 2) กำไร 1Q16 ที่ออกมาดี จะนำไปสูงการปรับประมาณการกำไรขึ้น และ 3) แม้ Bond Yield ปรับสูงขึ้น แต่ Earning Yield Gap ที่ 4.7-4.8% ยังเอื้อต่อการ “ลงทุน” หุ้นอยู่ดี

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (23 พ.ค.) ว่า กลยุทธ์ปัจจัยที่จะมีผลกระทบกับทิศทางตลาดที่จะต้องติดตามประกอบด้วย 1. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในวันที่ 14-15 มิ.ย. นี้ 2. การประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 2 มิ.ย. 3. การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 2 มิ.ย. 4. การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 15-16 มิ.ย. และ 5. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันที่ 22 มิ.ย. นี้ โดยปัจจัยที่มีความสำคัญต่อตลาดมากที่สุดคือการประชุม Fed ซึ่งระยะหลังมีความกังวลมากขึ้นว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ตลาดจะยังคงเผชิญแรงขายจากประเด็นดังกล่าวไปจนกว่าจะมีความชัดเจนในการประชุมเดือนมิ.ย. กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เรายังแนะนำให้ทยอยขายทำกำไร หากตลาดมีการรีบาวน์ โดยกลุ่มที่แนะนำให้ขายทำกำไรประกอบด้วย กลุ่มธนาคาร รับเหมาก่อสร้างโรงแรมและการท่องเที่ยว พลังงาน&ปิโตรเคมี เนื่องจากเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายการขายของนักลงทุนต่างประเทศ

ในขณะที่แนะนำ ซื้อ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาทหลังค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือนและมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่ออย่างกลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ (KCE DELTA SVI) กลุ่มอาหาร (CPF TU GFPT) และหุ้นdefensive play ที่น่าจะเป็นเป้าหมายของการพักเงินรอตลาดปรับฐานในรอบนี้ที่ให้อัตราเงินปันผลสูงอย่าง ADVANC (yield 6.4%, ราคาเป้าหมาย 184 บาท), INTUCH (7.5%,เป้าหมาย 60 บาท), LH (6.8%, เป้าหมาย 9.75 บาท), JASIF (9.8%, เป้าหมาย 11 บาท)โดยวันนี้ให้แนวรับที่ 1374-1380 และแนวต้านที่ 1390-1395 จุด

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (23 พ.ค.) ว่าตลาดหุ้นไทยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไรก่อนวันหยุดยาว สถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์เป็นผู้ขายหลัก โดยสถาบันมียอดขายสุทธิ 1.48 พันลบ. ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 131 ลบ. ซื้อพันธบัตร 9.38 พันลบ. แต่ขายสุทธิใน Index Futures 10,172 สัญญา โดยเช้านี้ราคาน้ำมัน WTI ยังคงยืนแถว 47.75 ดอลลาร์/บาร์เรลทรงตัวรอทิศทางก่อนการประชุมโอเปกจะจัดขึ้นในเดือนมิ.ย.ประเมินทิศทางดัชนีรีบาวน์สั้น

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เก็งกำไรสั้นๆในจังหวะรีบาวน์ โดยมีแนวรับ 1,380 จุดเป็น Filter สำคัญ หากหลุดแนวรับดังกล่าว แนะนำ ลดพอร์ตและถือเงินสดเพิ่มขึ้น สำหรับหุ้นเก็งกำไรแนะนำ CSS, SCI, INET (+ ADVANC เข้าประมูลคลื่น 900 MHz)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (23 พ.ค.)มีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นวันนี้ SET น่าจะ Sideways ในช่วงที่ตลาดบ้านเราปิดทำการเมื่อวันศุกร์ตลาดต่างประเทศฟื้นตัวมาแต่ไม่มาก โดยรวมยังขาดปัจจัยบวกหรือลบใหม่หนุนนำ อย่างไรก็ตามผลสำรวจโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ CME Group ในการประชุมเดือนมิ.ย. ได้ปรับลดลงเหลือ 26% จาก 34% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่าน ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มคลายความกังวลลงได้บ้างและน่าจะส่งผลบวกต่อตลาด อย่างไรก็ดีนักลงทุนต้องจับตาค่าเงินบาทและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของไทยที่ปรับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และตลาดหุ้นภูมิภาคในช่วงระหว่างเทรดเนื่องจาก ปัจจัยเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของ SET ค่อนข้างมากในช่วงนี้  ส่วนสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลขส่งออกรถยนต์ในวันนี้หรือพรุ่งนี้และตัวเลชส่งออกไทยเดือนเม.ย. ที่ตลาดคาดว่าน่าจะยังเป็นบวก +3% จาก +1.3% เมื่อเดือนมี.ค. ที่คาดว่าน่าจะประกาศในวันที่ 25 พ.ค นี้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: TVO (คาดกำไร 2Q16 เลิศ ตามการปรับขึ้นของราคากากถั่วเหลือง)

 

Back to top button