ชง 8 หุ้นความเสี่ยงต่ำ-ปันผลสูงดัชนีวันนี้แกว่งแคบ- Fund flow หนุน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ตลาดยังมีปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งยังมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในช่วงนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่รีบปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ย


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.07 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.20 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลยอดส่งออก ยอดนำเข้า และดุลการค้าของจีนเดือนพ.ค. ซึ่งจะมีการรายงานในวันนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ตลาดยังมีปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งยังมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในช่วงนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่รีบปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ย

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้เลือก ได้แก่ DIF, JASIF, BTSGIF, PTT , PTTEP, PTTGC, IVL และ SIRI

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ แต่ยังให้น้ำหนักอิงทางด้านบวกมากกว่า เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในช่วงนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ยใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาเป็นอีกแรงขับเคลื่อนให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดทำการแล้วในเช้าวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งบวกและลบประมาณ 0.1%พร้อมให้แนวต้าน 1,450 จุด แนวรับ 1,440 จุด

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) ว่า หากมาดูอัตราการขยายตัวของกำไรต่อหุ้น (EPS growth)ของตลาดรวมเทียบกับการเคลื่อนไหวของดัชนี SET จะพบว่า ส่วนใหญ่จะไปด้วยกัน โดยในปี 2013ดัชนี SET ขึ้นสูงสุดที่ 1650 จุด ก็มาจากอัตราการทำกำไรของตลาดขยายตัวได้ค่อนข้างสูงมาก ส่วนในปี 2015 ดัชนี SET ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับอัตราการทำกำไรของตลาดที่ลดลง ส่วนปีนี้อัตราการทำกำไรของตลาดโตแค่ 6.8%

ขณะที่ดัชนี SET ขึ้นมาที่ 1450+/- จุด การที่จะให้ดัชนีขึ้นสูงกว่านี้ เรามองว่ายังมีจำกัด ไม่เหมือนปี 2013 และ 2015 เพราะช่วงดังกล่าวอัตราการทำกำไรของตลาดขยายตัวสูงมาก การที่อัตราการทำกำไรของตลาดยังขยายตัวไม่มาก กลยุทธ์การลงทุนในระดับดัชนีบริเวณ 1450+/- จุด แนะนำ ขายหุ้นที่แนะนำให้ซื้อเก็งกำไรก่อนหน้านี้ ออกไปบ้าง วันนี้ดัชนี SET เปิดขึ้นมาคาดจะแกว่งตัวแรงขึ้น หลังแรงหนุนของตลาดหุ้นในภูมิภาคแผ่วตัวลง

ขณะที่ทางธนาคารโลกได้มีการปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงจาก 2.9% เหลือ 2.4% ส่งผลให้วันนี้น่าจะเกิดแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มต่างๆออกมา โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร แต่อาจสลับมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มอสังหาสร้างบ้านเข้ามา วันนี้มองแนวต้านที่ 1448-1452 จุด ส่วนแนวรับที่ 1435-1430จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IVL SIRI

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) ตลาดหุ้นไทยวานนี้วานนี้ปิดทรงตัว ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 4.5 หมื่น ลบ. ต่างชาติ , สถาบัน และพอร์ตโบรกเกอร์ยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้น  ตลาดพันธบัตรต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิสูงถึง 3.2 หมื่น ลบ. สำหรับ Fund Flow ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในไทย + 50 M.USD. , ซื้ออินโด ฯ +47 M.USD. ,ซื้อฟิลิปปินส์ +53 M.USD.

กลยุทธ์การลงทุน วันนี้ดัชนี SET ยังได้แรงหนุนจากทิศทางราคาน้ำมันยืนเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล , การเร่งประมูลโครงการรถไฟทางคู่ , รถไฟฟ้า และแอร์พอร์ตลิงค์ ในช่วงเดือน มิ.ย. – ก.ค. นี้  สำหรับทิศทางดัชนี SET หากยืนเหนือแนวรับ 1,430 จุดได้ คาดดัชนียังอยู่ในแนวโน้ม Sideway Up ขึ้นไปที่ระดับแนวต้าน 1,460 – 1,480 จุด  ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร PTT , PTTEP, PTTGC หากทิศทางน้ำมันยืนเหนือ 50 USD./บาร์เรล

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) มีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้  SET น่าจะยัง Sideways ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยโมเมนตัมเชิงบวกที่เชื่อว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. และก.ค. ยังมีอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งจะหนุนFund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มน้ำมันจะนำตลาดตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นยืนเหนือ US$50/บาร์เรลและยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องจากภาวะอุปทานตึงตัวค่อนข้างมากในระยะสั้นทั้งกำลังผลิตของกลุ่มนอกโอเปกที่ลดลงและ Supply disruption ยังมีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับขึ้นทำ New high ถือว่าเป็นการปรับขึ้นที่เปราะบาง โอกาสที่ SET จะถูกขายทำกำไรได้โดยง่ายหากมีปัจจัยลบเหนือความคาดหมายเข้าสู่ตลาด

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ตัวเลขส่งออกจีนเดือนพ.ค. ที่คาดว่าจะหดตัว -3.6% จาก -1.8%yoy ในเดือนเม.ย เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน สำหรับฝั่งยุโรปตัวเลขจีดีพี 1Q16 ยุโรปที่ปรับปรุงครั้งที่ 2 อยู่ที่ +1.7%yoy เท่ากับครั้งแรกที่รายงานและดีกว่าตลาดคาดไว้ที่ 1.5% อย่างไรก็ตามต้องติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งขณะนี้กำลังทำ All time low หลัง ECB เข้าซื้อพันธบัตรภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิด Flow ไหลออกจากยุโรปเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ไหลเข้ามาต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนก.พ. หรือหลัง ECB เพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรมากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: Selective BUY/ยังเน้นขึ้นขายแล้วรอซื้อกลับ

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: JASIF (ปลอดภัยและให้ปันผลสูง 8-9% ต่อปี)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) การผ่านกฎหมายภาษีที่ดินที่คาดว่าจะเริ่มใช้ภายในปี 2017 คาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดัน 1) กลุ่มอสังหาฯ โดยเฉพาะกลุ่มที่พัฒนาคอนโดฯ LPN SIRI SPALI เนื่องจากอุปสงค์คอนโดฯ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 รวมไปถึง 2) กลุ่มโรงแรมที่เดิมจ่ายภาษีโรงเรือน 12.5% บนรายได้ค่าเช่า มาเป็นจ่ายภาษีที่จ่ายตามมูลค่าสินทรัพย์ มีโอกาสจ่ายภาษีเพิ่ม 3) กลุ่มห้างฯ และ REIT มีความเสี่ยงจากต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าสามาระส่งผ่านไปที่ผู้เช่าได้…ขณะที่กลุ่มพลังงาน คาดว่าจะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และคงเป้าหมาย SET ระยะสัปดาห์ที่ 1,460 จุด

 

ทำอะไรดี: Infra Fund จะมีความเสี่ยงน้อยกว่า REIT จากกรณีการใช้กฎหมายที่ดินใหม่ และให้ปันผลสูง 6-10% (ยกเว้นภาษีปันผล 10 ปี ตั้งแต่จัดตั้ง) แนะนำ “ซื้อ” DIF JASIF (ปันผลสูง 9.5-10%) และ BTSGIF

Back to top button