SETบ่ายพักฐานในทิศทางขาขึ้นแนะลงทุนรายตัวชู 5 หุ้นทีเด็ด

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (13 มิ.ย.)ปรับฐานเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ติดลบเฉลี่ยราว 0.8% เจอแรงกดดันจากความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลงประชามติของชาวอังกฤษที่จะตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ บ่ายนี้ตลาดฯมีลุ้นค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ ตลาดฯคงเลือกลงทุนเป็นรายตัว พร้อมมองตลาดคงพักฐานในทิศทางขาขึ้นได้อยู่ โดยแนะนำหุ้นในกลุ่ม Domestic plays พร้อมให้แนวรับ 1,415-1,410 แนวต้าน 1,430-1,436 จุด

 

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับฐาน เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ติดลบกันเฉลี่ยราว 0.8% เนื่องจากรับแรงกดดันจากความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลงประชามติของชาวอังกฤษที่จะตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ทำให้ค่าเงินยูโร และเงินปอนด์ของอังกฤษ อ่อนค่าลง และส่งแรงกดดันไปที่สินทรัพย์เสี่ยงด้วย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากตลาดในยุโรปที่จะเปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้มีโอกาสที่จะติดลบ แต่ตลาดฯก็น่าจะได้ Sentiment บวกบ้างจากการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ 

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังคงเลือกลงทุนเป็นรายตัวอยู่ และมองว่าตลาดคงจะพักฐานในทิศทางที่เป็นขาขึ้นอยู่ พร้อมแนะนำหุ้นในกลุ่ม Domestic plays อย่างที่ได้รับผลดีจากบอลยูโร ก็ได้แก่ CPALL, HMPRO, ROBINS ส่วนที่ได้รับผลบวกจากประมูลงานรถไฟฟ้า ได้แก่ SCC, CK เป็นต้น พร้อมให้แนวรับ 1,415-1,410 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,436 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (13 มิ.ย.) ว่า  ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง, ความกังวล Brexit, และการ “พักฐาน” ทางเทคนิคหลัง SET ปรับสูงขึ้นแรงก่อนหน้านี้ กดดัน SET ปรับลดลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนที่ 1,420 จุด และอาจลงไปปิด Gap ทางเทคนิคที่ 1,412 จุด ก่อนที่จะเกิด Technical Rebound ขึ้น ขณะที่การ “พักฐาน” ในปัจจุบันไม่ได้ทำให้มุมมอง “บวก” ระยะกลาง-ยาว เปลี่ยนไป

แนะนำ “ซื้อ” THANI ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 4.80 บาท ด้วยปัจจับสนับสนุนจาก 1) อุตสาหกรรม Leasing รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์มีการแข่งขันไม่สูงมากนัก และโมเดลธุรกิจมั่นคงยากต่อการลอกเลียนแบบ 2) ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง หลัง Balance Sheet แข็งแรงขึ้น จะส่งผลให้ Spread ระหว่างรายได้ดอกเบี้ย กับดอกเบี้ยจ่ายยังสูงต่อไป แม้มองดอกเบี้ยในประเทศจะไม่ต่ำกว่าในปัจจุบันก็ตาม 3) ธุรกิจรถบรรทุกมีแนวโน้มฟื้นตัว จากภาคการขนส่งที่ฟื้นตัว ขณะที่ยังมีการขยายธุรกิจไปยังการเช่าซื้อบิ๊กไบค์ และรถบรรทุกพรีเมี่ยม 4) ด้วย PE ต่ำเพียง 12x และ Dividend น่าสนใจที่ 5-6.5% ในปี 59-60  มอง Downside Risk จำกัด ขณะที่ทางเทคนิคมองเป้าหมายระยะสั้นที่ 4.30 และถัดไปที่ 4.50 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

JAS      มูลค่าการซื้อขาย 1,759.37 ล้านบาท ปิดที่   4.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

CPALL    มูลค่าการซื้อขาย 1,359.38 ล้านบาท ปิดที่  47.50 บาท ลดลง  0.75 บาท

IVL      มูลค่าการซื้อขาย   878.20 ล้านบาท ปิดที่  31.25 บาท ลดลง  0.25 บาท

PTT      มูลค่าการซื้อขาย   841.80 ล้านบาท ปิดที่ 312.00 บาท ลดลง  5.00 บาท

KBANK    มูลค่าการซื้อขาย   791.46 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท ลดลง  3.00 บาท