ชง 17 หุ้นเด็ด เลือกเก็บช่วง SET ผันผวนจับตา Window Dressing พยุงดัชนี

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจำกัดจากกรณี Brexit ดัชนียังอยู่ในแนวโน้มไซด์เวย์ ขณะที่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังมีความผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีความคาดหวังการทำ Window Dressing ก่อนปิดไตรมาสสองจะช่วยประคองดัชนีในช่วงสั้น


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.14 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.26 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อผลกระทบหลังจากอังกฤษลงประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจำกัดจากกรณี Brexit ดัชนียังอยู่ในแนวโน้มไซด์เวย์ ขณะที่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังมีความผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีความคาดหวังการทำ Window Dressing ก่อนปิดไตรมาสสองจะช่วยประคองดัชนีในช่วงสั้น

หุ้นเด่นเลือก JASIF-DIF-THANI-KTC-KKP-ADVANC-CPN-ROBINS-CK-SEAFCO-BWG-CPALL-BJC-THAI-MC-KAMART และ TPIPL

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (28 มิ.ย.) ว่า แม้การ “ปรับพอร์ต” ของนักลงทุนทั่วโลกหลัง Brexit จะดำเนินต่อไป แต่มองผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและ SET จำกัด โดยมองว่ากลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำยาวนาน อย่าง REIT, Infrastructure Fund, Leasing และบัตรเครดิต จะ Outperform ตลาดล่าสุด Implied Fed Fund Futures คาดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยปีนี้เกือบ 0

แนะนำ “ซื้อ” หุ้นที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำนาน คาด Fed ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปหลัง Brexit ล่าสุด Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ลงเป็น 1.43% แนะนำ “ซื้อ”

1) ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำนาน : JASIF, DIF, THANI, KTC, KKP

2) Consumption + Infrastructure Plays : “ซื้อ” CPN, ROBINS, CK, SEAFCO, BWG และ “เก็งกำไร” CPALL, BJC

3) มีหนี้สกุลเงิน EUR อาจบันทึกกำไรค่าเงิน : THAI, TPIPL ล่าสุดค่าเงิน EUR อ่อนค่าลงอีก 0.8% เมื่อเทียบกับค่าเงินบาท เมือคืนนี้

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (28 มิ.ย.) ว่า ผลกระทบ Brexit น่าจะเป็นความผันผวนระยะสั้นในตลาดเงินตลาดทุนต่างประเทศที่จะมีผลกระทบจิตวิทยาด้านลบต่อตลาดหุ้นไทย และรอประเมินแนวทางการแก้ไขปัญหาระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรป

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำลดพอร์ตการลงทุนลง 50 % ที่บริเวณแนวต้าน 1,430 จุด เนื่องจากคาดตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกยังอยู่ระหว่างหาจุดสมดุลใหม่ ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลา 2 – 3 สัปดาห์  ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้น Domestic Play เช่น MC, KAMART

 

บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ (28 มิ.ย.) คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,415-1,435 จุด โดยมองดัชนี Sideway-Sideway Up แต่ยังมี Upside จำกัด หลังนักลงทุนยังจับตาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกรณี Brexit ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังมีความผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังการทำ Window Dressing ก่อนปิดไตรมาสสองคาดจะช่วยประคองดัชนีหุ้นไทยในช่วงสั้นนี้ไปก่อนได้

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (28 มิ.ย.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ผันผวนอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากภาพตลาดระยะกลางและระยะยาวยังไม่ชัดเจนหลังเกิด Brexit ขณะที่ระยะสั้นเริ่มเห็นสถาบันจัดอันดับเครดิตปรับลดความน่าเชื่อถืออังกฤษและหั่นคาดการณ์จีพีดีอังกฤษปีนี้และปีหน้าลง แต่ส่วนใหญ่มองเป็นผลกระทบในระยะยาว สำหรับการปรับลงของตลาดหุ้นในยุโรปและสหรัฐที่เกิดจาก Brexit Shockwave ระยะสั้นเท่านั้น และไม่ได้รุนแรงหรือเกิดปัญหาลุกลามใหญ่โตจนนำไปสู่ภาวะวิกฤตการเงินในระบบการเงินโลกหรือแบงก์ในยุโรป

หุ้นกลุ่ม Domestic Play ยังคงเป็นกลุ่มนำตลาด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่าง ADVANC ที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/59 น่าจะมาดีกว่าตลาดคาด ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารน่าจะทรงตัว ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ต้องเลือกชื้อรายตัว แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือเป็นปัจจัยเสี่ยงเข้ามาในตลาดหุ้นที่มีความอ่อนไหวสูงอาจทำให้ตลาดปรับลงแรงก็เป็นได้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY/ปรับพอร์ตเพื่อเข้าสู่หุ้นในกลุ่ม Domestic Play มากขึ้น

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : ADVANC (คาดไตรมาส 2/59 จะออกมาดีกว่าตลาดคาดไว้ก่อนหน้านี้)

Back to top button