จับตาหุ้นแบงก์ใหญ่ตัวชี้ทาง SETสอย 13 บจ.ร้อน เก็งกำไรงบ Q2
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นตามภาพรวมต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม อาจมีแรงขายออกมาหากผ่านระดับ 1,450 จุด ขณะที่หุ้นแบงก์ขนาดใหญ่อย่าง KBANK และ SCB จะเป็นตัวชี้นำทิศทางดัชนี การลงทุนเน้นกลุ่มที่ผลประกอบการไตรมาส 2/59 ออกมาดีเป็นหลัก
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.11 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.08 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลง หลังเงินเยนแข็งค่าฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วง ขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นตามภาพรวมต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม อาจมีแรงขายออกมาหากผ่านระดับ 1,450 จุด ขณะที่หุ้นแบงก์ขนาดใหญ่อย่าง KBANK และ SCB จะเป็นตัวชี้นำทิศทางดัชนี การลงทุนเน้นกลุ่มที่ผลประกอบการไตรมาส 2/59 ออกมาดีเป็นหลัก
หุ้นเด่นเลือก KBANK-SCB-CPF-SGP–KKP-IRPC-CK-SEAFCO-CPALL-JASIF-DIF-THANI และ KTC
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ก.ค.) ว่า แม้ดัชนีแกว่งตัวระยะสั้นหลังปรับสูงขึ้นแรง แต่มอง Downside จำกัดที่ 1,440 จุด ขณะที่กระแสเงินทุนไหลเข้าหุ้นใหญ่หลังคาดการณ์ธนาคารกลางทั่วโลกใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อหลัง Brexit และ Fed ชะลอขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นปี 2560 เป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,480 จุด และถัดไปที่ 1,520 จุด คาดกลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ออกมาดี, ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำ และการบริโภค+ลงทุนเร่งตัวขึ้น จะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด
เข้าสู่ช่วง Earnings Season แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ออกมาดี
1) กำไรไตรมาส 2/59 จะออกมาแข็งแรง : “ซื้อ” CPF (ธุรกิจกุ้งฟื้น ราคาหมูสูง), SGP (ธุรกิจในจีนเติบโตสูง), KKP (ได้ผลดีดอกเบี้ยต่ำ กำไรพิเศษขายธุรกิจหลักทรัพย์), IRPC (กำไรสต็อกน้ำมัน, Upgrade โรงกลั่นกลางปี)
2) การบริโภค-ลงทุนในประเทศ : “ซื้อ” CK SEAFCO “เก็งกำไร” CPALL (กำไรทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.6 หมื่นล้าน แต่ราคาหุ้นยังไม่ New High)
3) ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำนาน : “ซื้อ” JASIF DIF THANI KTC
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ก.ค.) เครดิตสวิสได้ปรับเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ขึ้นมาที่ระดับ 1,520 จุด และแนะนำซื้อหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET ยังคงเป็นลักษณะ Sideway Up ได้แรงหนุนจาก Fund Flow โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1,480 จุด และวางแนวรับสำคัญไว้ที่ 1,430-1,440 จุด โดยวางจุดสังเกตหากราคา KBANK ผ่านแนวต้าน 179.00 และ SCB ผ่านแนวต้าน 143.50 จะเป็นการยืนยันทิศทางการปรับตัวขึ้นต่อของดัชนี SET
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ก.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ SET ดูเหมือนจะปรับขึ้นตาม Momentum ของ Fund Flow ของต่างชาติและกองทุนในประเทศ เนื่องจากตลาดคาดว่าจะมี QE จากยุโรปและญี่ปุ่น และจะทำให้มี Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ หลัง SET ทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,450 จุด เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าสู่ตลาด ประกอบกับคาดว่าผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคารในไตรมาส 2/59 จะยังอ่อนแอ แม้ฝ่ายวิจัยและตลาดจะเห็นระดับ NPL ที่น่าจะ Peak ไปแล้วก็ตาม แต่ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ได้แข็งแกร่งมากจนทำให้ผลประกอบการออกมาดีเลิศ
ดังนั้นจึงยังให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์เพียง Neutral นอกจากนี้เรายังเห็นปัจจัยเสี่ยงจากสถานะการณ์แบงก์ในยุโรปที่กำลังเผชิญปัญหาหนี้เสียที่อยู่ในระดับสูงซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดวิกฤตการเงินในยุโรปได้ ยังเน้นลงทุนใน Domestic Play สำหรับหุ้นที่เราแนะนำมาก่อนหน้านี้และได้ปรับลงแต่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนเรายังแนะนำให้เข้าซื้อสะสมต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: Selective BUY/ขึ้นแรงขาย
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : IRPC (คาดงบไตรมาส 2/59 จะออกมาดีและดีต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/59 แต่ราคาต่ำเกินพื้นฐาน)