เคาะ 15 บจ.ร้อน ปันผลดี-กำไรแจ่มSET ไซด์เวย์ จับตางบแบงก์ Q2
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนในกรอบแคบ โดยราคาน้ำมันที่อ่อนตัวกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานและดัชนี อย่างไรก็ตาม ทิศทาง Fund Flow ยังเป็นบวกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มมีความคืบหน้า ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์จะเป็นกลุ่มแรกที่ประกาศงบ ไตรมาส 2/59 ในช่วงสัปดาห์หน้า การลงทุนเน้นหุ้นปันผลดี และกำไรไตรมาส 2/59 โต
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.09 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.18 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 26-27 ก.ค.
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนในกรอบแคบ โดยราคาน้ำมันที่อ่อนตัวกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานและดัชนี อย่างไรก็ตาม ทิศทาง Fund Flow ยังเป็นบวกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มมีความคืบหน้า ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์จะเป็นกลุ่มแรกที่ประกาศงบ ไตรมาส 2/59 ในช่วงสัปดาห์หน้า การลงทุนเน้นหุ้นปันผลดี และกำไรไตรมาส 2/59 โต
หุ้นเด่นเลือก ADVANC-INTUCH-JASIF-DIF-THANI-KTC-CPF-SGP-KKP-IRPC-BEAUTY-CK-CPALL-RS และ TWPC
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.ค.) การปรับลดลงของราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และ SET วันนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองบวกต่อการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ต่อไปด้วยเป้าหมาย 1,480/1,520 จุด จาก 1) สภาพคล่องตลาดเงิน-ทุนโลกสูง มีโอกาสที่ ECB และ BOJ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในการประชุมปลายเดือน ก.ค.นี้ และ 2) Earnings Yield Gap ยังสูงที่ 4.5-4.6%
หุ้นในกลุ่มสื่อสารเริ่มมีแนวโน้ม “แข็งแกร่ง” กว่าตลาด แนะนำ “ซื้อ” ADVANC และ INTUCH เพื่อรับปันผลกลางปี
1) ผลตอบแทนปันผลดี : “ซื้อ” INTUCH และ ADVANC (เป็น Laggard Plays ในกลุ่มหุ้นปันผลสูง 7-8%) JASIF, DIF และ THANI (คิดดอกเบี้ยต่ำกว่า 15% ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงสัญญาเช่าซื้อรถยนต์) KTC
2) กำไร 2/59 เติบโตเด่น: “ซื้อ” CPF, SGP, KKP, IRPC และ BEAUTY
3) การบริโภค-ลงทุนในประเทศ: “ซื้อ” CK (งานไซยบุรี หนุนกำไรเติบโตแกร่ง 198% ปีนี้ที่ 1.7 พันล้านบาท ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเร่งตัว) “เก็งกำไร” CPALL และ RS
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.ค.) ว่า ทิศทาง Fund Flow ยังดูเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มมีความคืบหน้าโดยรองนายกฯ สมคิด จะมีการเสนอ Infrastructure Fund เข้าครม.ภายใน 2 สัปดาห์ กลยุทธ์การลงทุน หากยืนเหนือ 1,450 จุดได้ แนะนำ เก็งกำไร โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,440-1,450 จุด แนวต้านที่ 1,460-1,470 จุด แนะนำ UNIQ CK (+Infrastructure Fund เข้า ครม.)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ผันผวนในกรอบแคบ แม้หุ้นกลุ่มน้ำมันจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าราคาหุ้นในกลุ่มน้ำมันน่าจะปรับลงไม่มาก เนื่องจากช่วงที่ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแรงราคาหุ้น PTT และ PTTEP ไม่ได้ปรับขึ้นแรงเช่นกัน ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารต้องไปลุ้นผลประกอบการไตรมาส 2/59 สัปดาห์หน้าที่คาดว่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนยังลดลง แต่อาจดีขึ้นจากไตรมาสก่อนบางในบางธนาคาร
อย่างไรก็ตาม ภาวะการเงินโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าเป็นห่วง แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน โดยเฉพาะพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า (Search for yield) ซึ่งอาจนำไปสู่การประเมินความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่ต่ำเกินไป (underprice of risks) ดังนั้นหุ้นขนาดกลางและเล็กจึงได้รับความสนใจในการเข้าเก็งกำไรกันเป็นอย่างมากในช่วงนี้แต่ต้องใช้ความระมัดระวังสูงเนื่องจากกำไรของบริษัทเหล่านี้ยังไม่มีเสถียรภาพ
นอกจากนี้คืนนี้ลุ้นตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย. ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลัง ADP รายงานการจ้างงานในภาคเอกชนเดือนมิ.ย เพิ่มขึ้น 172,000 ตำแหน่ง มากกว่านักวิเคราะห์คาด ประกอบกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : TWPC (เจ้าใหญ่ธุรกิจแป้งมันและวุ้นเส้นของไทย กำไรปีนี้โต 40% บวกปันผลปีละ 4-5%)