SET บ่ายยืนบวก-ชี้เงินไหลเข้าเอเชียแนะสอย 10 หุ้น Laggard-เงินปันผลสูง

SET บ่ายยืนบวก เขื่อเม็ดเงินยังไหลเข้าเอเชีย พร้อมให้แนวต้าน 1,475 ส่วนแนวรับ 1,455-1,450 จุด แนะสอย 10 หุ้น Laggard-เงินปันผลสูง นำโดย ADVANC,INTUCH, CK,SEAFCO,KKP, IRPC, BEAUTY,THANI,KAMART และ CPALL


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (11 ก.ค.) แกว่งในแดนบวกตาม Sentiment ต่างประเทศที่ขานรับตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯออกมาดี ช่วยลดความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ ขณะที่ตลาดฯยังคาดหวังนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมจากธนาคารกลางทั้ง BoE, ECB, FED, BOJ เชื่อเม็ดเงินยังไหลเข้าเอเชีย บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งในแดนบวกได้ต่อ พร้อมให้แนวต้านถัดไป 1,475 ส่วนแนวรับ 1,455-1,450 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในแดนบวกตาม Sentiment ต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้บวกเฉลี่ย 1% ภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ทำให้ลดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจประเทศสำคัญยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ตลาดฯก็ยังมีความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายผ่อนคลายที่จะออกมาด้วย โดยในช่วงครึ่งหลังของเดือนก.ค.นี้ จะมีการประชุมธนาคารกลางหลายประเทศ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมวันที่ 14 ก.ค., ธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) วันที่ 21 ก.ค., ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) วันที่ 27 ก.ค. และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) วันที่ 28-29 ก.ค. ดังนั้นจึงเชื่อว่าเม็ดเงินยังคงจะไหลเข้ามาในเอเชีย

ด้านปัจจัยในประเทศนั้น ทางฝ่ายวิจัยก็ได้มีการประเมินเศรษฐกิจในประเทศใหม่ โดยคาดว่าตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 2/59 เติบโต 3.4% สูงขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 2.8% และดีกว่า GDP งวดไตรมาส 1/59 ที่เติบโต 3.2% ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯคงจะยังแกว่งตัวในแดนบวกได้ โดยในช่วงเช้าดัชนีฯได้ขึ้นชนแนวต้านที่ 1,470 จุด ไปแล้ว ดังนั้นให้แนวต้านถัดไปที่ 1,475 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,455-1,450 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.ค.) ว่า Sentiment บวกจากตลาดหุ้นโลก หนุน SET ปรับสูงขึ้นต่อไปที่เป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,480/1,520 จุด และแนะนำ “ซื้อ” Yield Plays ที่ราคาหุ้น Laggard ตลาดมากอย่าง ADVANC, INTUCH รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการบริโภค และการลงทุนภาคในประเทศอย่าง CK, SEAFCO, KKP, IRPC, BEAUTY, THANI

ขณะเดียวกันแนะนำ “เก็งกำไร” KAMART (ราคาสูงกว่าพื้นฐานที่ 9 บาท ไปแล้ว แต่มีโอกาสปรับสูงขึ้นไปที่แนวต้าน 11.30/12.30 บาท) และ CPALL (เป้าหมายระยะสั้น 55-56 บาท)

โดยแนะนำ “ซื้อ” ADVANC ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 170 บาท และถ้าพิจารณาจาก Dividend Yield ที่ 6% จะมีเป้าหมายที่ 180-185 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ราคาหุ้น Laggard ตลาดตั้งแต่ต้นปี 5% และ Laggard กลุ่ม REIT/Infra Fund ที่ให้ปันผลสูงมากถึง 15%

แม้การแข่งขันในกลุ่มผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงขึ้น แต่มีความชัดเจนจากประเด็นคลื่นความถี่แล้ว ขณะที่ ADVANC ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดได้ดีในช่วงที่ผ่านมา 3) ด้วย Dividend Payout Ratio ที่ 100% คาดว่า ADVANC จะสามารถให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลได้  6.7% ปีนี้ อิงปันผล 11 บาทต่อหุ้น (ถ้าคิด Trading Range ตาม Dividend Yield 6-7% จะได้กรอบกาเคลื่อนไหวที่ 157-183 บาท) และ 4) ในทางเทคนิคราคาหุ้นทะลุ Downtrend Line ไปแล้ว และเกิดสัญญาณ “ซื้อ” ใน MACD มีเป้าหมายระยะสั้นที่ 170-175 บาท 

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

TRUE    มูลค่าการซื้อขาย 4,073.35 ล้านบาท ปิดที่   8.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท

ADVANC  มูลค่าการซื้อขาย 1,971.84 ล้านบาท ปิดที่ 165.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

CPALL   มูลค่าการซื้อขาย   994.12 ล้านบาท ปิดที่  52.25 บาท ลดลง  0.75 บาท

CPF     มูลค่าการซื้อขาย   952.64 ล้านบาท ปิดที่  27.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

IVL     มูลค่าการซื้อขาย   856.62 ล้านบาท ปิดที่  30.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

 

Back to top button