SET บ่ายยืนบวก-จับตาประชุมเฟด 14 ก.ค.โบรกฯแนะสอย 3 หุ้นเด่นปัจจัยบวกเพียบ
SET บ่าย ยืนบวก ชี้จับตาประชุมเฟดวันที่ 14 ก.ค. พร้อมให้แนวรับ 1,465 แนวต้าน 1,475-1,480 จุด แนะซื้อ SCC รับผลดีการลงทุนภาครัฐ เป้าพื้นฐาน 580 บาท
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (12 ก.ค.) ปรับตัวขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก รับความคาดหวังที่ญี่ปุ่นจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-เล็ง BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แนะนำให้ติดตามการประชุมเฟดในวันที่ 14 ก.ค. บ่ายนี้ตลาดฯยังคงจะยืนในแดนบวก พร้อมให้แนวรับ 1,465 แนวต้าน 1,475-1,480 จุด
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่าว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้แต่ไม่มาก โดยขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,475 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก จากความคาดหวังญี่ปุ่นจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่พรรคแกนนำรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้งวุฒิสภา และในส่วนของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 14 ก.ค.ให้ติดตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะสรุปภาวะเศรษฐกิจ และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในเรื่องของนโยบายการเงิน ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยืนในแดนบวกได้ พร้อมให้แนวรับ 1,465 จุด ส่วนแนวต้าน 1,475-1,480 จุด
บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (12 ก.ค.) ว่า ECB และ BOJ มีโอกาสออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม จึงหนุน SET ขึ้นต่อระยะสัปดาห์: แม้มีแรงขายทำกำไรใกล้แนวต้านบริเวณ 1,480 จุด แต่มองเป็นการ “พักฐาน” เพื่อปรับสูงขึ้นต่อในระยะสัปดาห์ เป้าหมาย 1,480 หรือถัดไปที่ 1,520 จุด โดยโอกาสที่ ECB และ BOJ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในการประชุมวันที่ 21 ก.ค. และ 29 ก.ค. จะเป็นปัจจัยหนุน Sentiment ต่อไป ทั้งนี้ามองการ “พักฐาน” ของ ADVANC (คาดปันผลปีนี้ 7%) และ INTUCH เป็นโอกาสในการซื้อเพิ่ม ประเมินแนวต้านระยะสั้นที่ 175 บาท และ 59.50 บาท ตามลำดับ
ขณะเดียวกันแนะ “ซื้อ” SCC…Laggard Plays ที่ได้รับผลดีจากการลงทุนภาครัฐฯ: แนะนำ “ซื้อ” SCC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 580 บาท จาก 1) เป็น Laggard Play ที่น่าสนใจ โดยราคาหุ้นปรับสูงขึ้นเพียง 5% ขณะที่ SET ปรับสูงขึ้น 14% ตั้งแต่ต้นปี ทั้งๆ ที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 2) แม้ธุรกิจปูนซิเมนต์ถูกกดดันจากราคาปูนที่อ่อนแอ และราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรที่แข็งแกร่งหนุนกำไรเติบโต 11% ปีนี้ ที่ 5 หมื่นล้านบาท 3) ธุรกิจปิโตรฯ ที่ต่างประเทศผ่าน Chandra Asri เติบโตแกร่ง 4) PE ปัจจุบันที่ 11.4x ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2012 ที่ 13.7x อยู่ 17% และ 4) เมื่อพิจารณาในทางเทคนิค กำลังทะลุแนวต้าน Downtrend Line และ MACD ปรับสูงขึ้นเหนือ 0 มีเป้าหมายระยะสั้นที่ 490 และถัดไปที่ 506 บาท ตามลำดับ
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 5,600.52 ล้านบาท ปิดที่ 8.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,613.70 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
THAI มูลค่าการซื้อขาย 1,031.34 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCC มูลค่าการซื้อขาย 929.14 ล้านบาท ปิดที่ 484.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 905.93 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง