PF ฟุ้งปีนี้กำไรมีโอกาสทำนิวไฮ แม้ลดเป้ารายได้หลังปรับลดโครงการใหม่

PF ฟุ้งปีนี้กำไรมีโอกาสทำนิวไฮ แม้ลดเป้ารายได้หลังปรับลดโครงการใหม่


นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้มีโอกาสทำสถิติสูงสุด หลังควบรวมกับบมจ.ไทย พร็อพเพอร์ตี้ (TPROP) และบมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) จากปีก่อนบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 398.80 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งแรกของปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 520.49 ล้านบาท

แม้ว่าบริษัทจะตัดสินใจปรับลดเป้ารายได้ในปีนี้ลงเหลือ 1.43 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 1.7 หมื่นล้านบาท รับผลการเลื่อนเปิดโครงการแนวราบที่สร้างเสร็จพร้อมขายและสามารถทยอยโอนได้ทันทีจำนวน 5 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการที่ยางนาและงามวงศ์วานออกไป เนื่องจากสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวลง และกำลังซื้อมีการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่โครงการที่เลื่อนเปิดตัวออกไปเป็นโครงการที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้า ซึ่งมีความเสี่ยงในเรื่องการขายในภาวะขณะนี้

ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 15 โครงการ มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าเปิดตัว 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.6 หมื่นล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิดโครงการแนวราบใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 1.38 พันล้านบาท โครงการแนวราบส่วนต่อขยาย 6 แห่ง มูลค่า 8.38 พันล้านบาท และเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ 1 โครงการ มูลค่า 1.4 พันล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 1.67 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 7 เดือนแรกบริษัททำยอดขายได้แล้วเกือบ 8 พันล้านบาท และมีมูลค่ายอดขายรอโอน(Backlog)อยู่ที่ 7.93 พันล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ 3 พันล้านบาท

นายธีรธัชช์ กล่าวว่า สำหรับแผนการขายที่ดินมูลค่า 900 ล้านบาทนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ที่สนใจ คาดว่าจะสามารถขายที่ดินดังกล่าวได้ตามแผนอย่างแน่นอน ส่วนการนำโครงการหอพักนักศึกษา Uniloft เชียงใหม่จัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่า 500 ล้านบาทในปลายปีนี้นั้น บริษัทได้มีการเปลี่ยนแผนดังกล่าวด้วยการเจรจาเสนอขายให้กับหน่วยงานภาครัฐที่สนใจ 1 ราย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ความมั่นใจได้ว่าจะมีข้อสรุปได้เมื่อใด

พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเสริมศักยภาพ (Strategic Partner) ของบมจ.วีรีเทล (WR) ซึ่งเป็นบริษัทที่ PF ถือหุ้นในสัดส่วน 93% เนื่องจาก WR ยังมีหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP)ที่รอเสนอขายราว 2 พันล้านหุ้น และบริษัทวางแผนจะนำ WR กลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯอีกครั้งในปี 59

ส่วนโครงการในอนาคตของ WR วางแผนปรับปรุงอาคารห้างสรรพสินค้าโรบินสันสีลมเดิมให้เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/59, โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ 2 โครงการทำเลรัชดาฯ 2 โครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/61, โครงการคอมมนิตี้มอลล์ย่านนานา คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/60, โครงการปรับปรุงพื้นที่เช่าในอาคารโรบินสันอโศก คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/63 และโครงการ Mixed use ขนาดใหญ่ บนพื้นที่ 30 ไร่ ที่ศรีราชา จ.ชลบุรี ภายใต้ชื่อ”ดีว่า ฮาเบอร์”ซึ่งจะมีศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และโรงแรม ซึ่งจะร่วมกับพันธมิตรอีก 2 รายในการพัฒนาโครงการดังกล่าว

               

Back to top button