“เสถียร เศรษฐสิทธิ์” นำทัพ CBG คว้า 3 รางวัลใหญ่ “SET Awards 2021”
CBG การันตีรางวัล Best CEO - Best Company Performance 2 ปีซ้อน สะท้อนผลดำเนินงาน-นวัตกรรมโดดเด่นตอกย้ำแบรนด์ระดับโลก
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เปิดเผยว่า บริษัทคว้า 3 รางวัล ในกลุ่ม Business Excellence จากงานประกาศรางวัล SET Awards 2021 เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ได้แก่ รางวัลผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม (Best CEO Awards) รางวัลผลดำเนินงานยอดเยี่ยม (Company Performance Awards) สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 100,000 ล้านบาท และรางวัลบริษัทที่มีนวัตกรรมดีเด่น (Outstanding Innovative Company Awards) กับ “คิวแพค” นวัตกรรมเชื่อมต่อโครงข่ายร้านค้า
โดยเฉพาะรางวัล Best CEO Award และ Company Performance Awards ซึ่งได้รับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สะท้อนถึงประสิทธิภาพการบริหารของผู้นำองค์กร และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจตลอดปี 2564 ได้เป็นอย่างดี
สำหรับรางวัล SET Awards ถือเป็นรางวัลอันทรงคุณค่าที่มอบให้แก่บริษัทที่มีความโดดเด่นและความเป็นเลิศในด้านต่างๆ ท่ามกลางปีที่ภาคธุรกิจยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจาก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
นายเสถียร กล่าวว่า เป็นความภาคภูมิใจในการได้รับรางวัลดังกล่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตอกย้ำถึงความสำเร็จของการดำเนินงานด้านต่างๆ ของบริษัทตลอดปี 2564 ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายจากปัจจัยรอบด้าน แต่บริษัทยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ยังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ท่ามกลางวิกฤต ด้วยการเปิดตัวสินค้า ตลอดจนการเพิ่มน้ำหนักขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
โดย “คาราบาวกรุ๊ป” สามารถทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ในปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการขาย และกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) โดยมีรายได้จากการขาย 17,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,298 ล้านบาท หรือ 15.4% ขณะที่ตัวเลขกำไรสุทธิ 3,559 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,091 ล้านบาท หรือ 44.2% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารค่าใช้จ่ายและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 คาราบาวกรุ๊ป สามารถทำกำไรอยู่ที่ 966.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายการพิเศษ กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% ซึ่งนับเป็นกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่บริษัทส่งออกไปขายต่างประเทศ จนทำให้สัดส่วนรายได้จากการส่งออกเครื่องดื่มบำรุงกำลังเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50%
นอกจากรางวัลด้านความยอดเยี่ยมของซีอีโอ และผลดำเนินงาน อีกหนึ่งรางวัลที่ถือเป็นตัวสะท้อนถึงการปรับตัวที่โดดเด่นของ คาราบาวกรุ๊ป คือ การได้รับรางวัล Outstanding Innovative Company Awards กับ “คิวแพค” นวัตกรรมเชื่อมต่อโครงข่ายร้านค้า ที่เข้ามาแก้จุดอ่อนในช่องทางยี่ปั๊ว ซาปั๊ว และร้านโชห่วย ให้กับคาราบาวกรุ๊ป
สำหรับ คิวแพค เป็นเทคโนโลยี QR Code พิมพ์บนบรรจุภัณฑ์สำหรับร้านค้า ซึ่งสร้างความเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายร้านค้าเพื่อพัฒนาการขายและบริการ โดยนวัตกรรมดังกล่าวเกิดจากความพยายามแก้ปัญหาในช่องทางเทรดดิชันนอลเทรด ซึ่งสะท้อนถึงค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรคือ “รู้แจ้ง ทำจริง ถูกต้อง แม่นยำ” เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
“เรานำระบบ QR Code มาพิมพ์อยู่ที่ลังสินค้า และทุกพาเลท ข้อดีคือ ทำให้เราเห็นข้อมูลสินค้าทั้งระบบว่ากระจายไปที่ไหนบ้าง ตั้งแต่ส่งไปที่เอเยนต์ ต่อไปยังซับเอเยนต์ ลงไปถึงร้านค้าส่งขนาดเล็ก จนถึงร้านค้าปลีก ทำให้เรารู้ว่าพื้นที่ไหนสินค้ากระจายตัวดี หรือไม่ดี หรือขายได้เร็วหรือช้า ทำให้เราสามารถเข้าไปแก้ปัญหาในแต่ละพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วตรงจุด เช่น เข้าไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในพื้นที่ที่ขายไม่ดี หรือเข้าไปแก้การกระจายสินค้าในพื้นที่ที่ยังไม่ครอบคลุม” นายเสถียร กล่าว
ทั้งนี้ ด้วยนวัตกรรมคิวแพ็ค ทำให้ธุรกิจของคาราบาวกรุ๊ป พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน เพราะจากข้อมูลที่มีช่วยให้บริษัทขายสินค้าได้เร็วขึ้น ดีขึ้น ที่สำคัญเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในธุรกิจเครื่องดื่ม ที่ช่องทางร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม หรือโชห่วย ทั่วประเทศ ยังเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภค
สำหรับทิศทางในปี 2565 คาราบาวกรุ๊ป ยังเดินหน้าออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องในหลายกลุ่ม อาทิ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Functional Drink) นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะออกสินค้าใหม่ในกลุ่มซี+ ล็อค ซึ่งจะเป็นโปรดักต์ที่เพิ่ม Benefit แก่ผู้บริโภคมากขึ้น แต่ไฮไลท์สำคัญคือ การแตกไลน์สินค้าในกลุ่มที่ใช้ใบกัญชาเป็นส่วนประกอบ รวมไปถึงการใช้สารสกัด CBD ที่มั่นใจว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด
“ปีหน้าจะมีการเห็นการพัฒนาสินค้าใหม่จำนวนมากเพื่อต่อยอดการเติบโตของบริษัทต่อไป พร้อมกับการเดินหน้าลดต้นทุนในด้านต่างๆ มากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการลดต้นทุนด้านพลังงานด้วยเพื่อให้ความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับที่ดี” นายเสถียร กล่าว
โดยจากผลงาน แนวทางในการบริหารตลอดปี 2564 ท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยปัจจัยลบ และความไม่แน่นอน “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” และ “คาราบาวกรุ๊ป” ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยม ซึ่งตอกย้ำถึงความเป็นองค์กรระดับแถวหน้าของไทย ที่วันนี้กำลังโดดเด่น และโลดแล่นอยู่ในเวทีระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ