ดีเดย์เกณฑ์ “ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์” 31 มี.ค.นี้ หนุนโอกาส SMEs – Startups เติบโต
ตลท.ออกเกณฑ์จดทะเบียนและการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านตลาดหลักทรัพย์ “ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์” พร้อมแต่งตั้ง “ประพันธ์ เจริญประวัติ” นั่งผู้จัดการ มีผล 31 มี.ค.นี้
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนกลยุทธ์สำคัญในการเชื่อมโยงโอกาสทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านตลาดทุนสำหรับ SMEs และ Startups ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone”
โดยที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการ LiVE Platform เพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ความรู้ เพิ่มศักยภาพและสร้างความพร้อมให้ผู้ประกอบการ ผ่านบริการต่าง ๆ อาทิ ห้องเรียนผู้ประกอบการ, โครงการ Incubation และ Acceleration Program และได้ร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. พัฒนาหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับ SMEs / Startups เพื่อให้สามารถระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้
“ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกเกณฑ์การจดทะเบียนและการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) ซึ่งมีความแตกต่างจาก SET และ mai ทั้งในส่วนของคุณสมบัติของผู้ออกหลักทรัพย์ และหน้าที่ภายหลังการเข้าจดทะเบียน รูปแบบและวิธีการลงทุนสำหรับกลุ่มผู้ลงทุนที่มีความรู้ ประสบการณ์ และฐานะการเงินในระดับที่สามารถรับความเสี่ยงได้ ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด รวมถึงบทบาทการกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้แนวคิด Light-touch Supervision” นายแมนพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มอบหมายให้ นายประพันธ์ เจริญประวัติ เป็นผู้จัดการ LiVEx เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่นายประพันธ์ เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งนายประพันธ์มีส่วนขับเคลื่อนและพัฒนา LiVEx ตั้งแต่เริ่มแรก โดยมีผลตั้งแต่ 15 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ LiVEx กล่าวว่า LiVEx ออกแบบขึ้นเพื่อธุรกิจ SMEs และ Startups ที่ต้องการเติบโต แต่ยังขาดโอกาสต่อยอดธุรกิจ ได้เข้ามาสร้างการเติบโตและก้าวไปสู่เส้นทางตลาดทุน ภายใต้เงื่อนไขที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และเมื่อธุรกิจสามารถสร้างการเติบโตยกระดับไปจนถึงการเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai เราก็พร้อมที่จะสนับสนุนผลักดันไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ LiVEx เป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มโอกาสลงทุนสำหรับผู้ลงทุนในตลาดทุนไทยอีกด้วย โดยสรุปสาระสำคัญของเกณฑ์การจดทะเบียนและการซื้อขายหลักทรัพย์ใน LiVEx มีดังนี้
1.เกณฑ์ที่เกี่ยวกับการเข้าจดทะเบียนและการเป็นบริษัทจดทะเบียน เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นในวงกว้างจาก ก.ล.ต. และเป็น SMEs ขนาดกลางขึ้นไป ตามนิยาม สสว. หรือ เป็น Startups ที่มี VC (Venture Capital) หรือ PE (Private Equity) ร่วมลงทุน นอกจากนี้ ผู้บริหารบริษัทต้องผ่านหลักสูตรอบรมการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุนด้วย ซึ่งภายหลังเข้าจดทะเบียนแล้ว บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลตามรอบระยะเวลา และตามเหตุการณ์
2.เกณฑ์ที่เกี่ยวกับการซื้อขาย กำหนดให้ซื้อขายผ่านสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ เฉพาะผู้ลงทุนที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด ในรูปแบบ Prepaid โดยต้องมีหุ้น หรือเงินเพียงพอสำหรับการซื้อขาย โดยเปิดให้ซื้อขายแบบ Auction ด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติ (Automatic Order Matching : AOM) วันละ 1 รอบ ระหว่าง 9.30–11.00 น. พร้อมชำระราคาและส่งมอบแบบ Gross Settlement ภายในวันเดียวกันกับวันที่ซื้อขาย (วันที่ T) และไม่มีการกำหนด Ceiling & Floor และ Circuit Breaker
“เกณฑ์ดังกล่าวได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยจะเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2565 สำหรับ SMEs และ Startups ที่สนใจสามารถยื่นแบบไฟลิ่ง ได้ที่ www.live-platforms.com ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะมีบริษัทยื่นไฟลิ่งในไตรมาส 2 ปีนี้ และจะเริ่มซื้อขายใน LiVEx ประมาณไตรมาส 3 เป็นต้นไป และสำหรับ SMEs และ Startups ที่เข้าจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2565 – 2567 ยังจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการเข้าจดทะเบียนอีกด้วย
นอกจากนี้ LiVEx จะเดินสายให้ข้อมูลผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง เริ่มจาก 31 มีนาคม 2565 จัดสัมมนาออนไลน์ “เจาะเกณฑ์เข้าจดทะเบียน และการลงทุนตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx)” สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.live-platforms.com” นายประพันธ์ กล่าว