OTO จัดงาน “Meet & Greet With XERXIA” กระชับมิตรเกมเมอร์-แฟนคลับ
OTO ลุย E-Sports เต็มพิกัด จัดงาน Meet & Greet With XERXIA เดินหน้าธุรกิจอีสปอร์ตเต็มพิกัด มั่นใจธุรกิจนี้จะเป็น New S-curve หนุนผลงานโตแกร่ง
นายปฏิพล ประวังสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโน ฮับ จำกัด กลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิจิตอล สเปซ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PSD) ประกอบธุรกิจเกมและอีสปอร์ตผ่าน Platform
โดย “อินโนฮับ” ถือหุ้นในสัดส่วน 49% เปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัทได้จัดกิจกรรม Meet & Greet With XERXIA and Watch Party LCQ Finals พบกับทีม XERXIA นักกีฬาเกม VALORANT อันดับ 1 ของไทย พร้อมกับรับชมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของรายการการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปีนี้ VALORANT Champions Tour 2022 : APAC Last Chance Qualifier ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ @Theater11 ซึ่งผลปรากฏว่าทีม XERXIA สามารถคว้าตั๋วเพื่อเข้าสู่เกมการแข่งขันชิงแชมป์โลก VALORANT Champions Tour ที่เมืองอิสตันบลู ประเทศตุรกี ในวันที่ 2-18 กันยายน 2565 นี้ได้อย่างสวยงาม
โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้เพื่อสร้างชุมชนและสังคมเกม VALORANT รวมถึงแบรนด์ XERXIA ให้มีความผูกพันธ์กันมากขึ้นระหว่างนักกีฬา อินฟลูเอนเซอร์ภายในสังกัดและแฟนคลับ และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่จะก้าวเข้ามาสู่วงการอีสปอร์ต
สำหรับกิจกรรม Meet&Greet With XERXIA ได้รับกระแสตอบรับอย่างมาก เนื่องจากมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานจำนวนมากและเต็มจำนวนภายในระยะเวลา 2 นาที หลังจากเปิดรับลงทะเบียนเท่านั้น แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อในปัจจุบันทำให้ต้องจำกัดผู้เข้าร่วมงานเพียง 300 ท่าน โดยภายในงานนอกจากได้พบปะเหล่าผู้เล่นและสตรีมเมอร์จากทีม XERXIA และรับชมการแข่งขันเกมสดๆ แล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ กิจกรรมแจก Lucky พร้อมมอบของรางวัล ทายผลผู้ชนะ และกิจกรรมเควสต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วมงานทำตามกติกาและรับของรางวัลอีกด้วย
โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นไปตามแผนโปรเจค Z7DAO แพลตฟอร์ม Esports team ที่บริษัทสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับนักเล่นเกมที่มีมากกว่า 20 ล้านคน ในประเทศไทย และหลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยมีแพลตฟอร์มเกม นักกีฬาเกม และเหรียญ NFT เพื่อใช้ใน Community ของตัวเอง ผ่านเหรียญ Z7DAO ที่จะเข้ามาช่วยกระจายรายได้จากการแข่งขัน Esports พร้อมกับการเป็นตัวกลางนำนักแข่ง, แฟนคลับ, นักลงทุนจากทั่วทุกโลกมาเจอกัน
รวมถึงใช้ในการแลกซื้อสินค้าที่อยู่ใน Community Esports ภายใต้แพลตฟอร์ม อีกทั้งมีรายได้จากการจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ รายได้จากสปอนเซอร์อีกด้วย และนอกจากนี้ PSD เตรียมซื้อทีม Esports เพิ่มอีก 5-7 ทีมเข้าสังกัดเพื่อเพิ่มความหลากหลายของเกม เข้ามาอยู่ภายใต้ Platform “Hubber.gg” รองรับความต้องการของนักเล่นเกมในไทยและทั่วโลก
“สุดท้ายนี้ เราเชื่อมั่นว่าการเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจ E-Sports จะเป็น New S-curve เต็มรูปแบบ และเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป” นายปฏิพล กล่าว