24CS ปลื้ม! ยอดจองซื้อหุ้น “ไอพีโอ” หมดเกลี้ยง จ่อเทรด mai 3 ต.ค.นี้
24CS ปลื้ม! ปิดจองซื้อหุ้น “ไอพีโอ” 130 ล้านหุ้น หมดเกลี้ยง ชูศักยภาพธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง งานติดตั้งระบบวิศวกรรมและระบบปรับอากาศครบวงจร พร้อมลงสนามเทรดวันแรกใน mai 3 ต.ค.นี้
นายยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ระบบปรับอากาศและรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ทำให้การเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 422 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับงานโครงการขนาดใหญ่ และโอกาสการเข้าประมูลงานโครงการที่ทยอยออกมาเพิ่มขึ้น สนับสนุนการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้จากปัจจุบัน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ราว 1,168 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้และปีหน้า อีกทั้งโอกาสจากการเข้าร่วมประมูลงานใหม่ในช่วงไตรมาส 3/2565 ถึงไตรมาส 4/2565 อีกราว 1,500-2,000 ล้านบาท และคาดว่าจะได้งาน 50-60% รับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กลับมาฟื้นตัวชัดเจน จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายปี 2565 ให้เติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 624.11 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19.46 ล้านบาท
โดยส่วนใหญ่เป็นการเติบโตจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และตอกย้ำความเชื่อมั่น 24CS ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ระบบปรับอากาศและรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารของประเทศไทยที่จะเข้ามาสร้างการเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุนในระยะยาว
ด้าน นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ กล่าวว่า การจองซื้อหุ้น IPO ของ 24CS จำนวน 130 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.40 บาท กำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ วันที่ 23 และ 26-27 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่จัดสรร สะท้อนความเชื่อมั่นธุรกิจ และแผนการเติบโตที่ชัดเจน
อีกทั้งการกำหนดราคาไอพีโอที่ 3.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 48.57 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม โดยเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายคือ “24CS” เข้าเทรดในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
โดยปัจจัยที่สนับสนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน มองว่ามาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ 24CS ทั้งในด้านผลการดำเนินงาน และโอกาสการเติบโตในอนาคต จากพอร์ตลูกค้าและผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ระบบปรับอากาศและรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารที่หลากหลายครบวงจร และด้วยความพร้อมในเรื่องของฐานเงินทุน ทำให้มั่นใจว่าในอนาคต 24CS จะเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ และสามารถเติบโตในระยะยาว
ขณะที่ นายกิตติชัย นาคะประเสริฐกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ 3 บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การจองซื้อหุ้น IPO ของ 24CS จำนวน 130 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.40 บาท กำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ วันที่ 23 กันยาน และ 26-27 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่จัดสรร สะท้อนความเชื่อมั่นธุรกิจ และแผนการเติบโตที่ชัดเจน โดยเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายคือ “24CS” เข้าเทรดในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
โดยปัจจัยที่สนับสนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน มองว่ามาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ 24CS ทั้งในด้านผลการดำเนินงานและโอกาสการเติบโตในอนาคต ด้วยจุดเด่นของ 24CS มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากว่า 10 ปี โดดเด่นในงานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ เป็นระบบงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งการต่อยอดไปยังบริการรับเหมางานก่อสร้าง รวมถึงการติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารทุกระบบอย่างครบวงจร ควบคู่การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาส สะท้อนมาที่ผลประกอบการของบริษัทที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับในด้านผลการดำเนินงานของ 24CS ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 406.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.67% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 433.94% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และปี 2565 มั่นใจงานในมือที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบตามแผน จะสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตของบริษัทให้เป็นไปตามที่วางไว้ ซึ่งการเติบโตของบริษัทโดยเฉลี่ยในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ตัวเลข 2 หลัก ปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตโดดเด่นจากปีก่อน จากปัจจัยสนับสนุนงานในมือที่ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 50% และโอกาสได้งานประมูลใหม่ที่คาดว่าจะมีรับรู้รายได้ราว 15% ในปีนี้เช่นกัน