ORI จับมือ “มจธ.” ลุย “ออริจิ้น-บางมด วัลเลย์” พัฒนานวัตกรรม-บุคลากรวงการอสังหาฯ
ORI ลงนาม MOU กับ “มจธ.” ลุยโครงการ “ออริจิ้น-บางมด วัลเลย์” ลุยงานวิจัย-พัฒนาบุคลากร-เปิดพื้นที่นักศึกษาฝึกงาน พลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในการดำเนินโครงการออริจิ้น-บางมด วัลเลย์ (Origin-Bangmod Valley) เพื่อสร้างความร่วมมือใน 4 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านการวิจัย ดำเนินการวิจัยร่วมกันเพื่อพัฒนาธุรกิจ และแก้ปัญหาต่างๆ ในมิติด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมไฟฟ้า และวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 2.ด้านการพัฒนาบุคลากร ดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรปัจจุบันของเครือออริจิ้น ซึ่งมีอยู่กว่า 2,600 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล หรือ Origin Multiverse ทั้งด้านการบริหารจัดการและองค์ความรู้อื่นๆ
3.ด้านการฝึกปฏิบัติ เปิดพื้นที่ Origin-Bangmod Valley เป็นพื้นที่ให้นักศึกษาของ มจธ.ได้ฝึกปฏิบัติในการสร้างชิ้นงานนวัตกรรมร่วมกับทีมงานของเครือออริจิ้น รวมถึงเปิดทางให้นักศึกษา มจธ.ได้มีโอกาสเข้าฝึกงานกับบริษัทในเครือออริจิ้น 4.ด้านการพัฒนาแอปพลิเคชัน ยกระดับแอปพลิเคชันในเครือ อาทิ Origin Connect, Primo Plus ให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของลูกบ้านมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมบ้านด้วยระบบ Home Automation
“ในโลกยุคปัจจุบัน ทุกธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องเผชิญความท้าทายใหม่ๆ ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เราตระหนักดีว่า การติดอาวุธเพิ่มเติมด้านการบริหารจัดการและด้านองค์ความรู้ให้แก่บุคลากรปัจจุบัน การเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้โชว์ไอเดีย ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เป็นเรื่องสำคัญในการรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงของโลก เราจึงมองว่า การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา ตลอดจนนักศึกษา Gen Z จะเป็นกุญแจสำคัญให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นได้จริง และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ มจธ.ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีวิสัยทัศน์ดังกล่าวสอดคล้องกัน” นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งหวังว่า การสร้างความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นส่วนสำคัญในการพลิกโฉมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่เครือออริจิ้น
ด้านรศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า มจธ.เป็นองค์กรที่ตื่นตัวกับกระแสความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มจธ. เป็นสถาบันการศึกษาที่สร้างผลงานวิชาการทั้งในด้านการวิจัย การผลิตบัณฑิต การให้คำปรึกษา และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
สำหรับความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีในครั้งนี้ เป็นการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในมหาวิทยาลัย สู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่ความก้าวหน้าในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป ผ่านการบูรณาการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ใน มจธ. อาทิ ศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เป็นต้น โดยมหาวิทยาลัยพร้อมผลักดัน Origin-Bangmod Valley ซึ่งจะเปิดพื้นที่ที่มีอุปกรณ์สนับสนุนให้ไอเดียใหม่ๆ นั้นต่อยอดได้ ภายใต้การทำงานร่วมกันระหว่าง มจธ. และ ออริจิ้น เพื่อก้าวสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่ของประเทศไทยได้
ส่วนผศ. ดร. วัชรพจน์ ทรัพย์สงวนบุญ ผู้อำนวยการศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร (STECO) มจธ. กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจมีความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงหลายๆ ปัจจัยทั้งจากสภาวะแวดล้อมที่มีความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว หรือความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่ทำให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเป็นไปง่ายขึ้น รวมถึงการนำความรู้ในการบริหารจัดการในเชิงกลยุทธ์และเชิงนวัตกรรมมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการในการปรับตัวให้พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว Origin-Bangmod Valley เป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อพัฒนาศูนย์กลางแนวคิดเชิงนวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัยจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเพื่ออำนวยความสะดวกการทำธุรกิจผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้และความเข้าใจในการบริหารเฉพาะทางให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงระหว่างภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ การให้คำปรึกษาในการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน แก้ปัญหา หรือต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน