ESSO ส่งออกสารละลายไฮโดรคาร์บอนสู่ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ต่อยอดความสำเร็จธุรกิจเคมีภัณฑ์
เอสโซ่ ยึดมั่นในความเป็นผู้นำส่งออกสารละลายไฮโดรคาร์บอน สู่ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นครั้งแรกและการต่อยอดความสำเร็จของธุรกิจเคมีภัณฑ์
ในปี 2565 นี้ กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ นำโดย คุณวิชาญ นิกรมาลากุล กรรมการและผู้จัดการทั่วไปธุรกิจเคมีภัณฑ์ มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการนำเสนอความสำเร็จในการส่งออกผลิตภัณฑ์สารละลายไฮโดรคาร์บอนจากประเทศไทยสู่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นครั้งแรก และการต่อยอดความสำเร็จของธุรกิจเคมีภัณฑ์
นับเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าทางธุรกิจที่บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ที่สามารถพัฒนาความสามารถและเอาชนะข้อจำกัดในการแข่งขันในตลาด และเพื่อเป็นทางเลือกที่มีคุณภาพที่เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสารละลายฯ ที่บริษัทฯ ได้ทำการส่งออก คือ Escaid™ ซึ่งเป็นแบรนด์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกระบวนขุดเจาะน้ำมันที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตขึ้นหลังจากวิกฤตการณ์จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
รถขนส่งผลิตภัณฑ์ Escaid™ กำลังถ่ายโอนสินค้าเข้าสู่เรือพาหนะในการขนย้ายสารสะลายฯ สู่ต่างประเทศ
คุณวิชาญกล่าวว่า “ปัจจัยหนึ่งที่เสริมสร้างความสำเร็จนี้ เป็นผลมาจากการร่วมแรงร่วมใจของพนักงานในแต่ละฝ่าย อันได้แก่ ฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย และฝ่ายขนส่ง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ กระบวนการขนส่งที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยสูง ภายใต้ข้อบังคับตามที่กฎหมายกำหนดและตอบสนองความต้องการของลูกค้าและพัฒนาความพึงพอใจได้เป็นอย่างดี”
คุณวิชาญ นิกรมาลากุล (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมประชุมกับฝ่ายการผลิตและผ่ายขนส่ง ณ โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชา เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์
คุณวิชาญ กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนต่อยอดความสำเร็จของธุรกิจเคมีภัณฑ์ โดยการพัฒนาทั้งเรื่องกระบวนการดำเนินงานและคุณภาพของกลุ่มผลิตภัณฑ์สารละลายฯ ภายใต้แบรนด์อื่นของบริษัทฯ ให้สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยคำนึงถึงอาชีวอนามัยต่อพนักงานในกระบวนการผลิตและความความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคด้วย”
“บริษัทฯ นำเสนอ กลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Exxsol™ และ Isopar™ ซึ่งมีค่ามาตรฐานในการสัมผัสสารเคมีอันตราย (Occupational Exposure Limit; OEL) สูงกว่าสารละลายแบบดั้งเดิมถึง 4 เท่า ซึ่งหมายถึงมีความเป็นอันตรายลดลง เพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สีทาบ้าน สเปรย์ปรับอากาศหรือกำจัดแมลง และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น” (อ้างอิง: Decorative coatings)
ภาพแสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบของค่า OEL ระหว่างผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Exxsol™ และ Isopar™ เมื่อเทียบกับสารละลายฯ แบบดั้งเดิม
แบรนด์สินค้า ที่อยู่ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Exxsol™ และ Isopar™
ภายในอนาคตอันใกล้นี้ กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ของเอสโซ่กำลังจะมีแผนการที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับกลุ่มน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในอนาคตจากการเติบโตในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า การกระจายตัวของที่อยู่อาศัยของชุมชน หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรที่มีการนำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามามีส่วนในการดำเนินชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น รวมถึงการนำเสนอ กลุ่มสารละลายไฮโดรคาร์บอนชนิดใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ผลิตในไทยและประเทศใกล้เคียง ให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถในกลุ่มของน้ำมันสำหรับการขึ้นรูปโลหะที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและผู้บริโภค
ภาพหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับการขยายตัวของความต้องการพลังงานไฟฟ้าและการใช้งานของผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้า
“นอกจากการร่วมแรงร่วมใจในองค์กรแล้ว ชัยชนะของเอสโซ่ เริ่มจากพนักงานทุกคนในทุกหน่วยงานที่สามารถบอกต่อความภาคภูมิใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของเรา ให้แก่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ในฐานะ Brand Ambassador ถัดมาคือ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการค้า โดยร่วมมือกับคู่ค้าของเราเพื่อการกระจายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไปยังผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง เพื่อช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทย เอสโซ่ให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และยังคงขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยวิสัยทัศน์ เติมเต็มพลังชีวิต ด้วยประสบการณ์พลังงานที่เหนือกว่า (Power Life with Premier Energy Experience)” คุณวิชาญกล่าวทิ้งท้าย
ทีมผู้บริหารของทางเอสโซ่และลูกค้า ที่มีความสัมพันธ์มากว่า 15 ปี