“อายิโนะโมะโต๊ะ” หนุนชาวไร่กาแฟ มอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่ผู้บริโภค
“อายิโนะโมะโต๊ะ” ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไร่กาแฟให้ดีขึ้น ไปพร้อมๆ กับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค
“เบอร์ดี้” แบรนด์กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคชาวไทยมากว่า 30 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ภายใต้ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ตั้งแต่การปลูก จนกระทั่งได้เป็นผลผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพดี หวังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไร่กาแฟให้ดีขึ้น ไปพร้อมๆ กับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค
โดยตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจจนถึงปัจจุบัน บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด มีแนวทางในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรผู้ปลูกกาแฟไทย ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากแหล่งผลิตภายในประเทศกว่า 1,400 ตันต่อปี หรือคิดเป็นรายได้ของเกษตรกรไทยมูลค่าปีละกว่า 129 ล้านบาท ทั้งนี้ อายิโนะโมะโต๊ะ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
นอกจากการตั้งเป้าหมายในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจแล้ว บริษัทฯ ยังได้ริเริ่มกิจกรรมต่างๆเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกรไทย อันเป็นต้นน้ำในการส่งมอบวัตถุดิบหลักเพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯอีกด้วย ล่าสุด ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ กรมวิชาการเกษตร เข้าไปสนับสนุนและให้ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในพื้นที่จังหวัดตาก ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งวัตถุดิบเมล็ดกาแฟคุณภาพดีที่ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์“เบอร์ดี้”
โดยได้เข้าไปมีส่วนร่วมส่งเสริมการผลิตอย่างยั่งยืนของเกษตรกรไทยในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เริ่มจากลงพื้นที่เพื่อไปแลกเปลี่ยนข้อมูลและปัญหาในการเพาะปลูกที่ชาวไร่พบเจอ เพื่อนำมาหาทางแก้ไขและพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ดิน การจัดการน้ำ การบริหารจัดการโดยองค์รวม การป้องกันการเกิดโรคในพันธุ์พืช รวมไปถึงการสนับสนุนปุ๋ยอินทรีย์เคมี “อามิเมท” ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากน้ำหมักที่เหลือจากกระบวนการผลิตผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ อันเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยนอกจากจะช่วยเพิ่มผลผลิตแล้ว ยังช่วยลดการใช้สารเคมีได้อีกด้วย
นับเป็นกระบวนการ Bio-cycle หรือวัฏจักรชีวภาพ ซึ่งเราสนับสนุนเกษตรกรเพื่อผลผลิตเมล็ดกาแฟพันธุ์ดี ที่นำไปสู่การเป็นวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมในการผลิต “เบอร์ดี้” แบรนด์กาแฟกระป๋องอันดับหนึ่งที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 63 ปีที่ อายิโนะโมะโต๊ะ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยให้ความสำคัญในการส่งมอบคุณค่าผ่านผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภค ไปพร้อมๆกับการดูแลใส่ใจปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การเป็น “กลุ่มบริษัทผู้ส่งมอบแนวทางการแก้ปัญหาและนวัตกรรมที่เกี่ยวกับอาหารและสุขภาพ” ภายใต้แนวทาง การสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม (The Ajinomoto Group Creating Shared Value: ASV) ซึ่งเป็นสิ่งที่อายิโนะโมะโต๊ะยึดถือในการดำเนินงานเสมอมา