MAKRO เปิดตัว “Makro PRO” แอปเดียว “สั่ง-ขาย-คุ้ม” อย่างโปร
MAKRO มุ่งสู่ผู้นำค้าส่งออมนิแชนแนลของไทยเปิดตัวยิ่งใหญ่ “Makro PRO” สั่ง ขาย คุ้ม อย่างโปรในแอปเดียว ตั้งเป้ายอดขาย O2O โต 88% ชู 5 จุดเด่นรุกตลาด ตอกย้ำผู้นำธุรกิจค้าส่งของเมืองไทย
นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย กล่าวว่า ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจออนไลน์ และอีคอมเมิร์ซเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น แม็คโครได้มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างธุรกิจ O2O เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ล่าสุดได้เปิดตัว Makro PRO แอปพลิเคชัน สร้างมิติใหม่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทย
“แม็คโคร มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่ง Omni-channel เชื่อมต่อทุกช่องทางการซื้อขายเพื่อตอบโจท์ผู้ประกอบการอย่างครบวงจรและไร้รอยต่อ โดยอาศัยความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำอาหารสด ความร่วมมือจากเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 34 ปี และเครือข่ายการบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ผสานกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย แอปพลิเคชันใหม่นี้ยังทำหน้าที่เป็นเสมือนแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ที่เปิดพื้นที่ขายให้เอสเอ็มอีรายใหม่ ๆ ได้เข้ามาร่วมมีโอกาสเติบโตร่วมไปกับแม็คโครอย่างยั่งยืน” นายธนิศร์ กล่าว
ด้าน นายถิรายุ ทรงเวชเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร สายงานดิจิทัล กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแม็คโคร ในการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า นำมาพัฒนาแอปพลิเคชัน “Makro PRO” ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการอย่างครบวงจร ทั้ง สั่ง ขาย คุ้ม อย่างโปรในแอปเดียว ”
นายถิรายุ เปิดเผยถึง 5 จุดเด่นสำคัญที่เชื่อว่าจะทำให้ “Makro PRO” แอปพลิชัน ก้าวสู่การเป็นแอปพลิเคชันที่ครองใจผู้ประกอบการไทยมากที่สุด ประกอบด้วย
1.Seamless Omni- Channel เชื่อมต่อการให้บริการจากสาขา (ออฟไลน์) สู่บนแอปพลิเคชัน (ออนไลน์) แบบไร้รอยต่อ พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ ให้แอปพลิเคชันใช้ง่าย เชื่อมต่อออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งระบบการแสดงสินค้า ราคา และการชำระเงิน
2.New Loyalty program กับการพัฒนา Makro Pro Point ระบบสะสมคะแนน ที่ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าเพื่อสะสมคะแนน ได้ทั้งช่องทางแอปพลิเคชันและที่สาขาของแม็คโครทั่วประเทศ โดยทุก ๆ การซื้อ 1,000 บาท จะได้ 1 Point มูลค่า 1 บาท เพื่อใช้แลกเป็นส่วนลดและสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย
3.Enhance Omni-Channel Efficiency เพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนากระบวนการบริหารจัดการทั้งระบบ โดยเฉพาะด้านการจัดส่ง เพื่อให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย โดยลูกค้าสามารถเลือกเวลารับสินค้าได้
3 ช่วงเวลา ได้แก่ช่วงเช้า บ่าย และเย็น ตามความสะดวก
4.Data Driven ใช้ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารายบุคคล (Personalization) เช่น สามารถมีโปรโมชั่นที่ตรงใจทุกกลุ่มมากขึ้น ตรงจุดยิ่งขึ้น
5.All in One Business Supercharging Platform เป็นแพลตฟอร์มที่เสริมพลังให้กับคนทำธุรกิจ โดยมีองค์ประกอบหลัก ๆ คือ เป็นแหล่งซื้อวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพสะดวกสบายบนปลายนิ้ว เป็นพื้นที่ให้โอกาสในการขายสินค้า (Marketplace) สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยหรือเอสเอ็มอี ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจในทุกมิติ (Business solution) คุ้มค่าด้วยระบบสะสมคะแนน (Point Reward) ซึ่งในการเปิดตัว Makro PRO แอปพลิเคชัน พร้อมเผยโฉมพรีเซ็นเตอร์คนแรก “ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์” ไปพร้อมกับการปล่อยภาพยนตร์โฆษณาสร้างการรับรู้ผ่านสื่อต่าง ๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นกระแสที่นำไปสู่ก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจดิจิทัลของแม็คโคร