“ไมเนอร์ โฮเทลส์” คว้า 24 รางวัลดีไซน์ “LIV Hospitality Design Awards” ครั้งที่ 3
“ไมเนอร์ โฮเทลส์” คว้า 24 รางวัลดีไซน์ “LIV Hospitality Design Awards” ครั้งที่ 3 เป็นรางวัลด้านการออกแบบสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงแรมและร้านอาหารในเครือ ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของโรงแรม ผู้ประกอบการ และนักลงทุนระดับนานาชาติที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย ตบเท้าคว้ารางวัลด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบ และประสบการณ์การเข้าพักที่ยอดเยี่ยม จาก LIV Hospitality Design Awards รางวัลด้านการออกแบบสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้ รางวัล LIV Hospitality Design Awards จัดตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2563 เพื่อเป็นรางวัลสำหรับสถานประกอบการและโครงการที่พักและร้านอาหารที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความหลากหลายของงานด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายในที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโรงแรมทั่วโลก
โดยคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติในปีนี้มาจากแวดวงสถาปนิก นักออกแบบ โรงแรม ผู้พัฒนาโครงการ และผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายใน รวมทั้งสิ้น 41 ท่าน ซึ่งโรงแรมและร้านอาหารในเครือไมเนอร์ โฮเทลส์ ที่ได้รับรางวัล LIV Hospitality Design Awards ประจำปี 2566 อาทิ: ซีน บีชคลับ สมุย (SEEN Beach Club Samui) ซึ่งตั้งอยู่บนหาดเฉวง ได้รับรางวัล Eating Space สาขาร้านอาหารสไตล์แคชชวล ดีไซน์ทรงกลมสะดุดตาที่ยิ่งโดดเด่นด้วยแสงนีออนในยามค่ำคืน พร้อมพื้นที่รับประทานอาหารในร่มและกลางแจ้งสระว่ายน้ำ 2 สระที่รายล้อมไปด้วยเตียงอาบแดด เคาเตอร์บาร์ต่างดีไซน์ถึง 3 จุด และบูธดีเจกลางแจ้งดีไซน์เก๋
ขณะที่โรงแรมอนันตรา พลาซา นีซ (Anantara Plaza Nice) ซึ่งตั้งขนานแนวต้นปาล์มสวยริมชาดหาดอันมีชื่อเสียงของเมืองนีซ ในประเทศฝรั่งเศส ก็ได้นำสถาปัตยกรรมยุคสวยงามของยุโรปตะวันตกที่ได้รับการบูรณะให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งมาคว้ารางวัลในกลุ่มโรงแรมหรูไป
ส่วนอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท (Anantara Chiang Mai Resort) โรงแรมริมแม่น้ำปิงใจกลางเมืองเชียงใหม่ซึ่งออกแบบโดย เคอร์รี่ ฮิลล์ บริษัทสถาปนิกชื่อดังก็ได้รับเลือกให้ติดโผ Jury’s Top Pick จากคณะผู้ตัดสิน โดยโรงแรมอันร่มรื่นและสวยงามแห่งนี้ ยังโดดเด่นด้วยอาคารแบบโคโลเนียลที่เคยเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลอังกฤษประจำเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็น เดอะ เซอร์วิส 1921 (The Service 1921) ร้านอาหารและบาร์ชื่อดังในสไตล์สำนักงานสายลับอังกฤษ
นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมอนันตราสองแห่งในประเทศโอมานที่ชนะรางวัลสถาปัตยกรรมในสาขา Destination ได้แก่ อัล บาลีด รีสอร์ท ซาลาลาห์ บาย อนันตรา (Al Baleed Resort Salalah by Anantara) ที่พักอันเงียบสงบตั้งอยู่ระหว่างชายหาดส่วนตัวและทะเลสาบใสสะอาด และอนันตรา อัล จาบาล อัล อัคดาร์ (Anantara Al Jabal Al Akhdar Resort) รีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม MINT กล่าวว่า บริษัทรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างมากที่โรงแรมและร้านอาหารในเครือหลายแห่งของเราได้รับรางวัล LIV Hospitality Design Awards ประจำปีนี้ จากการตัดสินของผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าของวงการ โรงแรมในเครือไมเนอร์ ไม่ว่าจะเป็น อนันตรา เชียงใหม่, จังเกิ้ล บับเบิ้ล ลอดจ์ ณ อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ, คัสร์ อัล ซาราป เดสเสิร์ท รีสอร์ท บาย อนันตรา ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปจนถึงโรงแรมหรูใหม่ล่าสุดในพอร์ตโฟลิโออย่าง อนันตรา พลาซา นีซ เรายังคงมุ่งพัฒนาประสบการณ์และการออกแบบโดยคำนึงถึงแขกผู้เข้าพักเป็นสำคัญ โดยจะรักษาจิตวิญญาณของสถานที่นั้น ๆ ไว้ดังเดิม
นอกจากนี้ยังมีแอสตริด เฮอร์เบิร์ต ผู้ก่อตั้ง รางวัล LIV Hospitality Design Awards กล่าวว่า รางวัลด้านการออกแบบโรงแรมและธุรกิจบริการ นอกจากจะเป็นการเชิดชูงานออกแบบอันเป็นเลิศ ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนให้นักออกแบบได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใส่ใจความยั่งยืน และนำนวัตกรรมมาปรับใช้ LIV Hospitality Design Awards ยังมุ่งพัฒนาชุมชนนักออกแบบหัวก้าวหน้าผู้ซึ่งยึดมั่นในการพัฒนาการออกแบบโรงแรม เพื่ออนาคตในระดับโลก จำนวนผู้ส่งผลงานเข้าประกวดในปีนี้ยังสูงขึ้น ซึ่งทำให้ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมโรงแรม ในการมอบรางวัลด้านการออกแบบเพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักให้กับผู้เข้ารับบริการ
รางวัล Architecture – Eating Space (สถาปัตยกรรม ร้านอาหารสไตล์แคชชวล) โดยผู้ชนะ ได้แก่ ซีน บีชคลับ สมุย (SEEN Beach Club Samui), รางวัล Architecture – Living Space (สถาปัตยกรรม พื้นที่ใช้สอย)
Jury’s Top Pick ได้แก่ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท – สาขา Resort, Luxury, คัสร์ อัล ซาราป เดสเสิร์ท รีสอร์ท บาย อนันตรา – สาขา Resort, Luxury
ผู้ชนะ ได้แก่ จังเกิ้ล บับเบิ้ล ลอดจ์ (Jungle Bubble Lodge) ห้องพักหรูในรูปแบบโดมใส ณ อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท – สาขา Lodge, โรงแรมอวานี พลัส หลวงพระบาง – สาขา Hotel, Boutique, อวานี เฉวง สมุย โฮเทล แอนด์ บีชคลับ – สาขา Midscale & Lifestyle, เอฟซีซี อังกอร์ บาย อวานี – สาขา Hotel, Luxury, เอฟซีซี อังกอร์ บาย อวานี – สาขา Historic & Heritage, อนันตรา เดซารู โคสต์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า – สาขา Midscale & Lifestyle, อวานี วิกตอเรีย ฟอลส์ รีสอร์ท – สาขา Resort, Midscale & Lifestyle
นอกจากนี้ยังมี คัสร์ อัล ซาราป บาย อนันตรา – สาขา Resort, Luxury, อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท – สาขา Resort, Luxury, อนันตรา อัล จาบาล อัล อัคดาร์ – สาขา Resort, Luxury, อัล บาลีด รีสอร์ท ซาลาลาห์ บาย อนันตรา – สาขา Resort, Luxury, อัล บาลีด รีสอร์ท ซาลาลาห์ บาย อนันตรา – สาขา Beach Destination
ส่วนผู้ชนะสาขา Destination ได้แก่ อัล บาลีด รีสอร์ท ซาลาลาห์ บาย อนันตรา – ตะวันออกกลาง และอนันตรา อัล จาบาล อัล อัคดาร์ – ตะวันออกกลาง
สำหรับรางวัล Interior Design – Eating Space (การออกแบบตกแต่งภายใน ร้านอาหาร) ผู้ชนะ ได้แก่ ห้องอาหารเอจ (Age) ณ อนันตรา ลายัน ภูเก็ต รีสอร์ท – สาขา Restaurant, Theme, ซีน เรสเตอรอง แอนด์ บาร์ ณ อวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ – สาขา Restaurant, Theme, ห้องอาหารกิลตี้ (Guilty) ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ –สาขา Restaurant, Theme, บีช เฮ้าส์ (Beach House) ณ อนันตรา ลายัน ภูเก็ต รีสอร์ท –สาขา Brand New และลอสต์ แอนด์ ฟาวด์ (Lost and Found) ณ อวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ –สาขา Night Club
สำหรับรางวัล Interior Design – Living Space (การตกแต่งภายใน พื้นที่พักผ่อน) ผู้ชนะ ได้แก่ โรงแรมอวานี พลัส หลวงพระบาง – สาขา Hotel, Boutique และ อนันตรา พลาซ่า นีซ – สาขา Hotel, Luxury