BANPU ฉลองครบรอบ 40 ปี ลุยขับเคลื่อน “พลังงาน” เติบโตยั่งยืน

BANPU เฉลิมฉลองครั้งใหญ่รับวาระ 40 ปี ต้อนรับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนอบอุ่น เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น “ส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน”


บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU จัดงานเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 40 ปี แห่งการดำเนินธุรกิจจนก้าวสู่การเป็น “ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ” ที่ช่วยขับเคลื่อนการสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานทั้งในประเทศไทย, อินโดนีเซีย, จีน, ออสเตรเลีย, ลาว, มองโกเลีย, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม พร้อมเน้นย้ำเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาธุรกิจให้สอดรับกับเทรนด์พลังงานแห่งอนาคต ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คน

ทั้งนี้ จากวันแรกของการก่อตั้ง บริษัท เหมืองบ้านปู จำกัด ที่หมู่บ้านบ้านปู อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ในปี 2526 บ้านปูได้เติบใหญ่จนกลายเป็นผู้นำของธุรกิจพลังงานในระดับนานาชาติ ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน, กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานกว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา บ้านปูสามารถปรับตัวและขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวข้ามทุกความท้าทาย และพร้อมเติบโตสู่อนาคต

โดยตามกลยุทธ์ “Greener & Smarter” ที่มุ่งส่งมอบโซลูชันด้านพลังงานที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คน และสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานให้กับโลกตามพันธสัญญา “พลังบ้านปู สู่พลังงานที่ยั่งยืน (Our Way in Energy)”

ด้าน นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ BANPU ซึ่งเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอคนแรกที่ปลุกปั้นธุรกิจพลังงานของ “บ้านปู” ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยเทคนิค “คิดให้ทัน ทำให้เร็ว” กล่าวว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจเมื่อ 40 ปีที่แล้ว บ้านปูยังคงยึดมั่นในปณิธานที่ว่า “อุตสาหกรรมที่ดีจะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งเป็นกรอบการดำเนินธุรกิจและเข็มทิศที่ช่วยชี้แนวทางการทำงาน จนกลายเป็นอัตลักษณ์ของเรา และเมื่อบริบทของสังคมเปลี่ยนแปลงไป จึงได้ปรับวิธีคิดและวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งคำนึงถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) พร้อมกับการเป็นพลเมืองดีในทุกที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ (Good Corporate Citizen) และที่สำคัญยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของ “คน” ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้บ้านปูสามารถเอาชนะความท้าทายและวิกฤติต่าง ๆ จนก้าวสู่การเป็นองค์กรระดับนานาชาติที่ประสบความสำเร็จ พร้อมไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมรอบตัวอยู่เสมอ

ขณะที่ นายเมธี เอื้ออภิญญกุล กรรมการ BANPU หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสามท่านของบ้านปู กล่าวว่า ผมคิดว่า กุญแจสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ทุกวันนี้ คือ “ผู้นำ” อย่างคุณชนินท์ที่สามารถผสานความร่วมมือกับผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญหลายแขนง ทั้งยังทุ่มงบประมาณจำนวนมากในการพัฒนาศักยภาพของ “คนบ้านปู” เพราะมองว่า “คน” คือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต นอกจากนั้นแล้ว ความสัมพันธ์เชิงบวกที่เรามีให้กับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การดำเนินธุรกิจของเราเป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถตอบแทนสังคมได้ในเวลาเดียวกัน

ส่วน นายองอาจ เอื้ออภิญญกุล กรรมการ BANPU อีกหนึ่งผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ เสริมว่า ผมกับคุณชนินท์รู้จักกันมาก่อนตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ในเวลาต่อมา เมื่อผมเริ่มมองหาแหล่งเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับบ่มใบยาสูบซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ก็ได้พบกับถ่านหินซึ่งเป็นแหล่งพลังงานจากธรรมชาติ ประกอบกับ ณ เวลานั้นทั่วโลกเกิดวิกฤตราคาน้ำมันขึ้น และประเทศไทยเองก็นำเข้าน้ำมันเกือบ 100% ดังนั้นเมื่อมีแหล่งพลังงานจากธรรมชาติที่พอจะทดแทนเชื้อเพลิงจากน้ำมันได้ จึงเป็นความหวังในการพึ่งพาแหล่งพลังงานภายในประเทศ ผมและคุณเมธีจึงมองเห็นโอกาสที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจเหมืองถ่านหินและได้ชักชวนคุณชนินท์ให้มาเริ่มต้นทำด้วยกัน

โดยช่วงแรกที่เริ่มทำธุรกิจเมื่อ 40 ปีที่แล้วถือว่าไม่ง่ายเลย ต้องเดินเท้ากันเป็นวันๆ เข้าไปตั้งแคมป์อยู่กลางป่าเป็นเวลาหลายเดือน ส่วนเรื่องการติดต่อสื่อสารนั้นถือว่ายากมาก เพราะในยุคนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่สิ่งที่เรามีคือ “ทีมงานที่เชี่ยวชาญ” ที่หมั่นเติมความรู้และมองหาโอกาสอยู่เสมอทั้งจากหนังสือ บุคคล และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

พร้อมทั้งศึกษาและฝึกฝนจนเกิดเป็น “ความมั่นใจและกล้าลงทุน” ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้บ้านปูปรับตัวเข้ากับเทรนด์ด้านพลังงานและสถานการณ์ของโลกได้เป็นอย่างดี และสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศครั้งแรกที่เรา ‘ลงทุนซื้อเหมืองที่อินโดนีเซีย’ เพื่อเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งนั่นทำให้บ้านปูประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด ก่อนจะเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และเติบโตอย่างแข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU ซีอีโอผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเปลี่ยนครั้งสำคัญ (Banpu Transformation) กล่าวว่า ดิฉันรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านปูมาตั้งแต่เริ่มต้นในปี 2526 ได้เห็นการเติบโตของบริษัทฯ และพนักงานทุกคน และไม่ว่าจะพบกับมรสุมทางธุรกิจหรือความท้าทายใด ๆ ก็สามารถก้าวผ่านมาได้ ด้วยการวางกลยุทธ์เพื่อสร้างความหลากหลายทางพลังงาน

รวมถึงการก่อตั้งบริษัทในเครือเพื่อแก้ปัญหาด้านพลังงานในหลากมิติได้สำเร็จ จนเมื่อดิฉันเข้ารับตำแหน่งซีอีโอตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา โดยเริ่มนำกลยุทธ์ Greener & Smarter มาขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจ พร้อมแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุน ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ และผสานพลังภายในระบบนิเวศของบ้านปูเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่จะต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง

“ดิฉันเชื่อว่าทั้งหมดนี้ คนบ้านปูทำด้วยหัวใจ “บ้านปู ฮาร์ท (Banpu Heart)” วัฒนธรรมองค์กรที่หลอมรวมให้พนักงานกว่า 6,000 คนมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้เสียและขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คน (Better Living for All) นางสมฤดี กล่าว

โดยภายในงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 40 ปีของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มีการจัดแสดงโชว์ในชื่อชุด “4 Decades of Our Way in Energy” ที่บอกเล่าเรื่องราวตลอด 4 ทศวรรษของบ้านปู เพื่อการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน และ “Banpu Is Closer to You Than You Think” ที่แสดงให้เห็นว่าบ้านปูอยู่ใกล้คุณมากกว่าที่คุณคิด จากการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่บอกเล่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจและจุดเปลี่ยนสำคัญของบ้านปู ซึ่งตอกย้ำบทบาทการเป็น ‘ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ’ ประกอบด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่ Banpu Core Business ภาพรวมการดำเนินธุรกิจใน 3 เสาหลักภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter และพันธสัญญาที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อมกับการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน (Our Way in Energy) Milestone ภาพเหตุการณ์สำคัญที่สร้างจุดเปลี่ยนทางธุรกิจของบ้านปู และ Powering the Better Living for All อีกหนึ่งบทบาทของบ้านปูที่ช่วยสร้างและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น

โดยงานเฉลิมฉลองดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก และได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานจำนวนมาก

Back to top button