BRI ผนึก “มูลนิธิศุภนิมิตฯ” ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน
BRI จับมือ “มูลนิธิศุภนิมิตฯ” ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานใน 23 ไซต์ก่อสร้าง ลุยโครงการ “GOOD FOR ALL” อบรมผู้รับเหมา-แรงงานข้ามชาติดูแลสุขภาพกาย-ใจ
นายบูรณินทร์ ลัภนะกุล กรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นที่บริทาเนีย ต้องการเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ภายใต้พันธกิจ “B The Goodness” ล่าสุด บริษัทร่วมมือกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการ “GOOD FOR ALL” เสริมสร้างสุขภาพและสุขภาวะที่ดีแก่แรงงานในพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาพร้อมให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ
โดยเฉพาะแรงงานหญิงข้ามชาติและครอบครัวที่เข้ามาทำงานและพักอาศัยอยู่ในภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ต่อยอดจากโครงการการเข้าถึงแรงงานหญิงข้ามชาติและครอบครัวในบ้านพักชั่วคราวแรงงานก่อสร้าง (REACH) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO)
“การจะสร้างบ้านที่มีคุณภาพได้นั้น ต้องเริ่มมาจากรากฐาน ซึ่งก็คือบริษัทผู้รับเหมาและกลุ่มแรงงานที่มีคุณภาพ เราเชื่อว่าการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จะส่งผลให้มีคุณภาพงานที่ดี ส่งมอบคุณค่าการอยู่อาศัยที่ดีแก่ผู้บริโภค เราจึงเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่กลุ่มแรงงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนครอบครัว ให้มีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้แก่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นต้นน้ำในการดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงาน และอบรมด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมให้แก่ตัวแรงงานข้ามชาติเอง ตลอดจนตรวจสุขภาพให้แก่แรงงาน” นายบูรณินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการ “GOOD FOR ALL” มีระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.2566) โดยจะมีผู้เข้าร่วมโครงการรวมมากกว่า 600 คน แบ่งเป็นกลุ่มบริษัทผู้รับเหมา 40 คน และได้คัดสรรกลุ่มแรงงานในประเทศ รวมทั้งแรงงานข้ามชาติ รวมกว่า 600 คน ที่ปฏิบัติงานในสถานที่ก่อสร้างของบริษัท บริทาเนีย ทั้ง 23 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ รวม 15 ครั้ง โดยจะมุ่งเน้นสิทธิ 2 ด้าน
ได้แก่ 1.เสริมสร้างความเข้าใจเรื่องบทบาทและหน้าที่ที่พึงกระทำ สิทธิพื้นฐานและประโยชน์ที่แรงงานพึงได้รับ ตลอดจนการดำเนินการจัดหาและจ้างงานอย่างเป็นธรรมแก่ผู้รับเหมาและแรงงานข้ามชาติ และ 2.การเสริมสร้างสุขภาวะที่ดี ทั้งการเข้าถึงการตรวจสุขภาพ การสร้างสุขอนามัยที่ดี การจัดการสิ่งแวดล้อม แก่แรงงานข้ามชาติให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา บริทาเนีย และมูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้เริ่มดำเนินการจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปกับกลุ่มผู้รับเหมาไปแล้ว 2 ครั้ง มีผู้เข้าอบรมกว่า 40 คน โดยบริษัทมีความตั้งใจที่จะขยายผลจากการได้พูดคุยกับผู้รับเหมา และการลงพื้นที่แคมป์คนงาน ก่อนนำผลที่ได้มาวางแผนเพื่อพัฒนาคุณภาพของแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติให้ดีขึ้น โดยจะเริ่มจากการส่งเสริมให้บริเวณบ้านพักของแรงงานสะอาด ปลอดภัย มีสุขภาวะที่ดี ซึ่งสอดคล้องตามข้อค้นพบสำคัญของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่ระบุ 5 อันดับความต้องการของแรงงานข้ามชาติ คือ ค่าจ้าง, มีงานปลอดภัย, ที่อยู่สะอาด, สามารถเติบโตด้านการงานได้และครอบครัวสบาย
นางรสลิน โกแวร์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางมูลนิธิศุภนิมิตฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารระดับสูง และบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นเรื่องที่ทับซ้อนอยู่ในภาคธุรกิจ การให้ความสำคัญและส่งเสริมความรู้ด้านสิทธิแรงงานแก่ผู้ประกอบการและนายจ้าง ซึ่งเป็นฝ่ายที่อยู่ใกล้ชิดแรงงานข้ามชาติที่สุด จึงเป็นจุดสำคัญที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการช่วยประเทศไทยขับเคลื่อนงานเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างอื่นๆ ได้รับรู้ และตระหนัก รวมทั้งให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิแรงงานข้ามชาติมากยิ่งขึ้น
สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-end ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 34 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 41,456 ล้านบาท