ORI ขึ้นแท่นเจ้าตลาด “คอนโด” ชูทำเลเด็ดตอบโจทย์ทุก Gen
แกะรอย “ออริจิ้น” คว้ายอดขายคอนโดครึ่งปีแรก 19,080 ล้าน ขึ้นแท่นเจ้าตลาดคอนโด โชว์ทำเลเด็ดหลากหลาย-ฟังก์ชันใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ตลาดทุก Gen
ตอกย้ำความแรงไม่มีหยุดของ “เจ้าตลาดคอนโด” เมืองไทย บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ภายใต้การนำของแม่ทัพใหญ่ พีระพงศ์ จรูญเอก ที่ยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ล่าสุด สามารถกวาดยอดขายกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมครึ่งปีแรกของปี 2566 ได้ถึง 19,080 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมปีนี้
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่ทำยอดขายได้มากที่สุดในครึ่งปีแรกนี้ ได้แก่ โครงการออริจิ้น เพลส เพชรเกษม (Origin Place Phetkasem) โครงการดิ ออริจิ้น เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (The Origin Centre Phuket) โครงการโซ ออริจิ้น ศิริราช (So Origin Siriraj) และโครงการดิ ออริจิ้น แคมปัส ขอนแก่น (The Origin Campus Khonkaen) ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมโตต่อเนื่อง
นายพีระพงศ์ เล่าว่า จากยอดขายในครึ่งปีแรกพบว่า 3 แบรนด์สุดแข็งแกร่งที่ครองแชมป์ในครั้งนี้ คือ แบรนด์ออริจิ้น เพลส (Origin Place) คอนโดมิเนียมระดับ Upper Class ที่มีห้องพักและส่วนกลางดีไซน์เฉพาะทำเล เจาะกลุ่มคน Gen Y และนักลงทุน แบรนด์โซ ออริจิ้น (SO ORIGIN) คอนโดมิเนียมระดับ High End ดีไซน์เอกลักษณ์ Duo Space บนทำเลดีใกล้รถไฟฟ้าเพื่อคน Gen Y และ Gen X และดิ ออริจิ้น (The Origin) แบรนด์ตัวท็อปยืนหนึ่งในใจคน Gen Z และกลุ่มผู้เพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber)
“แม้ปีนี้เป็นครั้งแรกที่เรายกทัพคอนโดมิเนียมออกสู่จังหวัดใหม่ๆ นอกเหนือจากพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และอีอีซี แต่ออริจิ้นก็ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดิมทั้งในขอนแก่นและภูเก็ต เพราะเราใส่ใจทั้งทำเล ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยเลือกใช้แบรนด์ ออริจิ้น มาเป็นแบรนด์เรือธงในการบุกหัวเมืองต่างจังหวัด” พีระพงศ์ กล่าว
3 กลยุทธ์แกร่งสู่แบรนด์คอนโดตัวท็อป
เมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำให้คอนโดมิเนียมเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ยังคงครองใจผู้บริโภค พีระพงศ์ มองว่า การศึกษาลงลึกถึง Insight เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพทุก Journey ของผู้บริโภคในทุกทำเล ทุกเจเนอเรชัน ทั้งด้านทำเล ฟังก์ชัน และบริการ
1.ครอบคลุมทำเลศักยภาพ
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังปักหลักในทำเลยุทธศาสตร์ใกล้รถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมครอบคลุมรถไฟฟ้าทั้ง 6 สาย คือ สายสีเขียว-ส่วนต่อขยาย สายสีน้ำเงิน สายสีแดง สายสีเหลือง ไปจนถึงรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการในอนาคต ทั้งสายสีชมพู และสายสีส้ม
ขณะที่พื้นที่จังหวัดใหม่ จะเน้นเข้าถึงทำเลหัวเมืองหลักที่มีความโดดเด่นในแต่ละพื้นที่ อาทิ ภูเก็ต หัวเมืองด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ ขอนแก่นเมืองศูนย์กลางความเจริญของภาคอีสาน มีมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ และมีขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงเป็นพื้นที่ที่มีดีมานด์ด้านที่อยู่อาศัยค่อนข้างสูง
2.ฟังก์ชันใช้งานได้จริง
ฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริงและตรงใจผู้อยู่อาศัยมากที่สุด คือหัวใจสำคัญของการออกแบบในทุกโครงการที่อยู่อาศัย จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้คอนโดมิเนียมเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มีเลย์เอาท์ห้องที่โดดเด่น ยืดหยุ่นพร้อมรองรับทุกการใช้งานของผู้อยู่อาศัย ซึ่งห้อง Duo Space เพดานสูง 4.2 เมตร เป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า แต่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า
เช่นเดียวกับ Pet Lover Condo ที่บริษัทคัดสรรวัสดุและออกแบบฟังก์ชัน ทั้งในห้องพักและส่วนกลางให้คนและสัตว์เลี้ยงสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว อาทิ SPC Click Lock พื้นกระเบื้องยางถนอมข้อต่อสัตว์เลี้ยง เฟอร์นิเจอร์เคลือบ Melamine Films ทนความร้อน ทนรอยขีดข่วน และ พื้นที่ส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยง ทั้ง Cat Club, Dog Yard, Walking Track, Pet Park และบริการดูแลสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ สอดคล้องกับเทรนด์ Pet Humanization ของคนในยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ส่งผลให้คอนโดตอบโจทย์ Pet Lover ของบริษัทได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยม
3.บริการโดนใจ
นอกจากคอนโดมิเนียมคุณภาพแล้ว สิ่งที่ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ Super Living Service ที่มีการพัฒนาบริการที่หลากหลาย เพื่อเต็มเติมไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยตลอดช่วงชีวิต ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อาทิ การบริหารงานนิติบุคคลอาคารชุด บริการนายหน้าซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่า บริการแม่บ้านทำความสะอาด บริการตกแต่งภายในครบวงจร ในคอนโดมิเนียมที่ครอบคลุมทุกเซกเม้นท์ ไปจนถึงบริการสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น เพ็ทโตะ แคร์ (Petto Care) ให้บริการคลินิกสัตว์เลี้ยง
“ความสำเร็จของเราในครั้งนี้ยืนยันว่าเรามาถูกทางแล้ว แต่เรายังไม่หยุดที่จะค้นหา Unmet Needs ของผู้บริโภคที่ยังมีอยู่อีกมากมาย เพื่อให้ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังเป็นแบรนด์ที่อยู่อาศัยที่ครองใจคนทุกเพศทุกวัย ทันต่อทุกความต้องการที่เปลี่ยนไปทั้งในวันนี้และอนาคต” นายพีระพงศ์ กล่าวย้ำ
สำหรับ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 140 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2566) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิออริจิ้น(The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 211,301 ล้านบาท
2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร