SNP ติดโผ “หุ้นยั่งยืน” ESG Ratings ระดับ A ประจำปี 66

SNP ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน “SET ESG Rating” ประจำปี 66 ระดับ A ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอาหารและเบเกอรี่ที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “คุณภาพ คุณค่า คุณธรรม” เพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ Net Zero ในปี 93


บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ SNP ได้รับการประเมิน SET ESG Rating” ประจำปี 2566 ในระดับ A จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยบริษัทเป็น 1 ใน 193 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน (SET ESG Ratings) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการนำแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงการบริหารความเสี่ยงและเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risks) อีกทั้งพร้อมรับมือกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนได้อย่างสมดุล

นางมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร SNP เปิดเผยว่า บริษัทมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับผลประเมิน “SET ESG Rating” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งผลการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ในครั้งนี้สะท้อนการดำเนินธุรกิจอาหารและเบเกอรี่ที่ยั่งยืนตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ภายใต้แนวคิดคุณภาพ คุณค่า คุณธรรม เพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าตามคำมั่นสัญญาของบริษัทที่ว่า “Healthier Family, Happier World”

รวมถึงบริษัทยังดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของบริษัท 7 ข้อ สอดคล้องกับแนวทางของสหประชาชาติ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั้งพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าและนักลงทุน ด้วยการคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพดีตั้งแต่ต้นน้ำ ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ อาทิ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ส่งเข้ากระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในกระบวนการผลิต ตลอดจนการขนส่งอย่างครบวงจรผ่านศูนย์กลางกระจายสินค้าไปยังหน้าร้าน ด้วยรถไฟฟ้า S&P EV Truck ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ สำหรับหน้าร้านเอส แอนด์ พี มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อควบคุมต้นทุนและลดการเกิดของเสียและส่งมอบถึงมือผู้บริโภคด้วยอาหารเบเกอรี่คุณภาพดี ในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับอาหารส่วนเกินจากการผลิต เอส แอนด์ พี มีการบริหารจัดการเพื่อลดของเสีย โดยส่งมอบผ่านโครงการ S&P Food Rescue รวมถึงโครงการแยกขยะ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกแก่พนักงาน

นอกจากนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น บริษัทยังได้ประกาศเป้าหมายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2593 เพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) อันเป็นเป้าหมายสูงสุด เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อให้สภาพแวดล้อมคงอยู่อย่างยั่งยืน

“เอส แอนด์ พี มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ พร้อมปรับตัวให้ทันต่อความเสี่ยงทางกายภาพและความเสี่ยงทางด้านการเปลี่ยนผ่านท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ตลอดจนให้ความสำคัญกับการสร้างผลกระทบเชิงบวก ลดผลกระทบเชิงลบกับสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน” นางมณีสุดา กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button