“บลจ.ดาโอ” เปิดขาย IPO “กองทุน DAOL-BHARAT” 14-20 มี.ค.นี้ หวังสร้างผลตอบแทนระยะยาว

“บลจ.ดาโอ” เปิดขาย IPO "กองทุนเปิด ดาโอ ภารัต (DAOL-BHARAT)" ระหว่างวันที่ 14-20 มี.ค.67 เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางที่ดีมีคุณภาพ โอกาสเติบโตสูง ได้รับปัจจัยหนุนจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอินเดีย ผ่านการคัดเลือกและบริหารโดยผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจตลาดอินเดีย


นางสาวนิสารัตน์ ชมภูพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด หรือ บลจ.ดาโอ (DAOL INVESTMENT MANAGEMENT) เปิดเผยว่า การพัฒนาและการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียกำลังเติบโตรวดเร็วและโดดเด่น จนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก (มูลค่า GDP ของอินเดีย มีสัดส่วนกว่า 3.5% ของ GDP ทั่วโลก) และคาดการณ์ว่ามีโอกาสจะขึ้นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในปี 2027 โดยมีปัจจัยที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้แก่ จำนวนประชากรที่เป็นอันดับหนึ่งของโลก ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานและเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น และความน่าสนใจในการเป็นฐานการผลิตของธุรกิจของโลก (ที่มา: IMF World Economic Outlook (April 2023)

ในด้านแผนการพัฒนาประเทศ รัฐบาลอินเดียปรับปรุงและพัฒนากฎระเบียบด้านภาคธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น กฎระเบียบเรื่องการล้มละลาย เรื่องภาษี ฯ เพิ่มความมั่นใจกับนักลงทุนและการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

โดยปัจจัยต่อมา คือ อินเดียมีประชากรที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีจำนวนมาก ทำให้อินเดียเป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล สะท้อนจากการเติบโตของธุรกิจ Startup ในอินเดีย ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (Unicorn) มีการจัดตั้งขึ้นมากกว่า 60 บริษัท ในช่วง 20 เดือนที่ผ่านมา  โดยมีอัตราการเติบโตของเงินทุนสูงกว่าของจีน (ที่มา: pib.gov.in, INC42 as of March 2023 / INC42, OTHER SECONDARY SOURCES )

นอกจากนี้ อินเดียพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มความเร็วของเครื่องบินขนส่งและพาณิชย์ การตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ให้เหลือเพียง 8% ของ GDP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก (ที่มา: Department of Economic Affairs, Ministry of Finance)

ทั้งนี้ด้วยประเทศอินเดียมีขนาดใหญ่และมีประชากรมาก ทำให้บริษัทที่มีขนาดกลางและเล็กได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และเมื่อพิจารณาในอดีตกองทุนที่มีนโยบายแบบ Mid-Cap สามารถสร้างผลการดำเนินงานสูงกว่ากองทุนที่มีนโยบาย Multi-Cap

บลจ.ดาโอ จึงเปิดเสนอขาย IPO “กองทุนเปิด ดาโอ ภารัต (DAOL-BHARAT)”  วันที่ 14-20 มีนาคม 2567 (ความเสี่ยงระดับ 6 : ความเสี่ยงสูง) มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในอินเดีย เน้นลงทุนบริษัทขนาดกลางไม่น้อยกว่า 60% และลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ได้ไม่เกิน 40%  ผ่านกองทุนหลัก Mirae Asset India Mid Cap Equity Fund Class R US ซึ่งบริหารโดย Mirae Asset Global Investments ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญการลงทุนในอินเดีย ซึ่งมีความเข้าใจ “วัฒนธรรม” การทำธุรกิจของอินเดียอย่างรอบด้าน รวมถึงการตรวจสอบการบริหารความถูกต้องภายในอย่างละเอียด ทำให้ Mirae สามารถคัดเลือกหุ้นขนาดกลางคุณภาพดี อันจะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาวให้แก่นักลงทุนได้

ตัวอย่างหลักทรัพย์ที่ลงทุน ได้แก่  CEAT บริษัทผลิตล้อและยางรถทุกประเภท สัญชาติอินเดีย มีคู่ค้าอยู่ทั่วโลก มีกำลังการผลิตยางได้มากถึง 800 ตันต่อวัน

FEDERAL BANK หนึ่งในธนาคารกลุ่มแรกในอินเดีย ให้บริการทางด้านเงินและการลงทุน มีสาขากว่า 1,348 แห่งทั่วอินเดีย มีลูกค้ารวมกว่า 16 ล้านราย

Gujarat State Petronet Limited ดำเนินธุรกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อที่เชื่อมต่อกับศูนย์อุปสงค์และอุปทานต่างๆ ใน คุชราต บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 1998 GSPL มีเครือข่ายไปป์ไลน์ประมาณ 2,692 กม. ทั่วรัฐคุชราต และกำลังขยายเครือข่ายไปป์ไลน์เพิ่มเติม

DELHIVERY บริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติก และSupply Chain ทั่วอินเดีย มีคลังสินค้าขนาดใหญ่กว่า 85 แห่ง และศูนย์รับสินค้ากว่า 1 หมื่น มีรายได้หลักจากบริการกับธุรกิจออนไลน์

LUPIN บริษัทผู้ผลิตสินค้าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ หนึ่งในบริษัทที่มี Supply Chain ทั่วโลก และมีจุดเด่นด้านสินค้าที่มีคุณภาพดี

(ที่มา: : Mirae Asset India Equity Fund as of 31 JANUARY 2024)

ด้วยกลยุทธ์ลงทุนแบบ Active Management ที่กระจายลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์และรายหลักทรัพย์ และเน้นสะสมมูลค่าในระยะยาว ทำให้กองทุนสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนอย่างโดดเด่น โดยพบว่าย้อนหลัง 3 เดือนให้ตอบแทนอยู่ที่ 16.5%  ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่  16.1% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่  36.0%  ย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 69.8%  ย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่  123.4%  และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 78.3%  เมื่อเทียบกับดัชนี NIFTY Midcap 100 Index อยู่ที่  25.4%  27.6%  56.0%  104.0% 145.6% 71.8%  ตามลำกดับ  (ที่มา: Mirae Asset India Equity Fund ณ 31 ม.ค. 2567)

“Fund Flow ที่ไหลเข้าตลาดหุ้นอินเดีย สะท้อนว่าอินเดียได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตและ ขณะที่อัตราการเติบโตของหุ้นยังอยู่ในระดับสูง โดยคาดการณ์ Earning ของบริษัทจดทะเบียนในช่วงปี 2020-2025 จะมีการเติบโตอยู่ที่ 21% ต่อปี จึงมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นอินเดียจะเติบโตต่อ ซึ่งนับว่าโดดเด่นขณะที่ตลาดเกิดใหม่อื่นๆต่างเจอกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ดังนั้น ‘กองทุนเปิด DAOL -BHARAT’  จึงเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนในตลาดหุ้นอินเดีย ยักษ์ใหญ่อีกประเทศที่มุ่งหน้าสู่การเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลก” นางสาวนิสารัตน์  กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด (“บลจ.ดาโอ”) โทรศัพท์ 02-351-1800 กด 2 หรือตัวแทนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.ดาโอ ดังนี้

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บล.เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

บลน.เว็ลธ์เมจิก จำกัด

บล.เอเชียเวลท์ จำกัด

บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด

บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาช  น)

บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

บล.เอเอสแอล จำกัด

บลน.เทรเชอริสต์ จำกัด

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด

บล.ไอร่า จำกัด (มหาชน)

บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

บล.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน)

บลน.ฟินโนมินา จำกัด

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

บลจ.เอ็กซ์สปริง จำกัด

บล.เคเคพี ไดม์ จำกัด

บลน.โรโบเวลธ์ จำกัด

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

บลน.เวลท์ รีพับบลิค จำกัด

บลน.แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด

บล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด

บล.สยามเวลธ์ จำกัด

บล.พาย จำกัด (มหาชน)

บล.บียอนด์ จำกัด (มหาชน)

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

Back to top button