SCGP คว้าการรับรอง “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” สะท้อนนวัตกรรมสินค้ายั่งยืน

SCGP คว้าการรับรอง “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” ครอบคลุมทุกกลุ่มบรรจุภัณฑ์สินค้าที่ผลิตในไทย สะท้อนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม หนุนให้ลูกค้าได้ใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อโลกที่ยั่งยืน พร้อมก้าวสู่ Net Zero ปี 93


นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า บริษัทเห็นถึงความสำคัญของการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2593 โดยมุ่งดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพไปพร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมและดำเนินงานตามมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ได้แก่ สหภาพยุโรปที่กำหนดให้ต้องระบุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากตัวสินค้าเพื่อส่งมอบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกค้า รวมถึงตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

โดยล่าสุด SCGP ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตในประเทศไทยที่สามารถระบุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ได้แก่ เยื่อกระดาษ, กระดาษ, กระดาษบรรจุภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์พลาสติก รวมทั้งสิ้น 109 ผลิตภัณฑ์ อีกทั้งได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกระบวนการพิมพ์และการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์กระดาษรวม 16 กระบวนการ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์กระดาษภายใต้การประเมินแบบ Cradle to Gate (B2B)

ส่วนกลุ่มสินค้ากระดาษถ่ายเอกสารและบรรจุภัณฑ์อาหาร (Fest) ได้รับการรับรองรวม 19 ผลิตภัณฑ์ ภายใต้การประเมินแบบ Cradle to Grave (B2C) ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฏจักรของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาซึ่งวัตถุดิบ, กระบวนการผลิต, การกระจายสินค้า, การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังจากหมดอายุการใช้งาน

นอกจากนี้ การได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ถือเป็นเป้าหมายของ SCGP ในการร่วมมือกับลูกค้าเพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้สอดคล้องกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของภาครัฐที่มีการบังคับใช้มากขึ้นในหลายประเทศ ในขณะเดียวกัน การระบุปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกสินค้าที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

Back to top button