PRINC จับมือ IJN ยกระดับการดูแลผู้ป่วย “โรคหัวใจ” ในภูมิภาค
PRINC ส่งโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จับมือกับ Institut Jantung Negara หรือรู้จักในนามสถาบันหัวใจแห่งชาติมาเลเซีย ยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจในภูมิภาค
บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด มหาชน หรือ PRINC และ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์ ลงนามความร่วมมือกับ Institut Jantung Negara หรือ IJN หรือที่รู้จักกันในนามสถาบันหัวใจแห่งชาติมาเลเซีย (Malaysia National Heart Institute) ผู้นำในด้านการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดและทรวงอก ประเทศมาเลเซีย ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU เพื่อร่วมกันยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจในภูมิภาค โดยนพ.สมคิด อุดมกิจมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ และ Dato’ Akmal Arief, Deputy Chief Executive Office, Institut Jantung Negara (IJN) โดยมี นพ.อธิวัฒน์ น้อยประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิลฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมปันสุข ชั้น 5 โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
นพ.สมคิด กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ Institut Jantung Negara ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิที่มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพหัวใจในภูมิภาค ความร่วมมือกับสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านโรคหัวใจและการผ่าตัดหัวใจและทรวงอกอย่าง IJN ช่วยสนับสนุนศักยภาพและความร่วมมือทางการแพทย์ เพื่อนำเสนอแนวทางรักษาที่ทันสมัยแก่ผู้รับบริการได้อย่างครบวงจร และยังช่วยในการยกระดับมาตรฐานการรักษาโรคหัวใจในประเทศไทยให้เทียบเท่าระดับสากล”
ด้าน Dato’ Akmal Arief กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ PRINC โดยโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ IJN ที่มุ่งมั่นเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศระดับโลกด้านการดูแลหลอดเลือดหัวใจและทรวงอกแบบบูรณาการ ด้วยเหตุนี้การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีระหว่างกันจะช่วยให้สามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการรักษาโรคหัวใจให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเป็นการมอบโอกาสให้ผู้ป่วยในประเทศไทยเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม”
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางการแพทย์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการรักษาโรคหัวใจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีการประชุมสัมมนาและเผยแพร่ผลงานร่วมกัน เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ รวมถึงพัฒนาศักยภาพของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นการสร้างพันธมิตรทางการแพทย์ระหว่างประเทศ อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาส สำหรับการพัฒนาและขยายขอบเขตการรักษาทางการแพทย์ในอนาคต.