FTI จับมือ ANGEL ยักษ์ใหญ่จีน! ศึกษาตั้งบ.ร่วมทุน ขยายระบบกรองน้ำไฮเอนด์

FTI เซ็น MOU ศึกษาแผนร่วมทุนพันธมิตร ANGEL ยักษ์ใหญ่จากจีน เสริมศักยภาพตลาดค้าปลีก ระบบกรองน้ำไฮเอนด์


ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2567 บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ หรือ MOU เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และแผนธุรกิจของโครงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ ANGEL HEALTH TECHNOLOGY PRIVATE LIMITED หรือ ANGEL ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งตามกฎหมายประเทศสิงคโปร์ และมีบริษัทแม่ตั้งอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน

โดย ANGEL เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบกรองน้ำระดับไฮเอนด์ ซึ่งการลงนาม  MOU ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และแผนธุรกิจในการร่วมทุนจัดตั้งบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำบัดน้ำครบวงจรในระดับไฮเอนด์ รวมถึงการให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีกรอบระยะเวลา MOU 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ลงนาม

สำหรับการลงนาม  MOU ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจค้าปลีกระบบกรองน้ำให้กับ FTI เนื่องจาก ANGEL เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบกรองน้ำระดับไฮเอนด์ ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการทำตลาดค้าปลีกมาอย่างยาวนาน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบให้ทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยี เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง มี lifestyle ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่หรู ดูดี สามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งในด้านการใช้งาน และภาพลักษณ์ที่ดี มีประสบการณ์กว่า 37 ปี และมีจำนวนช่องทางจำหน่ายผ่านร้านค้ามากกว่า 10,000 แห่งใน 65 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ที่สำคัญ ANGEL มีฐานการผลิตหลักในประเทศจีน 3 แห่ง และในมาเลเซีย 1 แห่ง โดยฐานการผลิตที่เมือง Shaoxing มีพื้นที่ประมาณ 600,000 ตารางเมตร นับเป็นโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึง ANGEL ให้ความสำคัญกับการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงประสิทธิภาพที่สูง สามารถนำไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในพื้นที่จำกัด และยังมีห้องปฏิบัติการวิจัยคุณภาพน้ำในประเทศจีนอีกด้วย

“จุดแข็งของ FTI มาจากการเติบโตของธุรกิจค้าส่ง ขณะที่ตลาดค้าปลีกเราเริ่มทำตลาดได้ไม่นาน จึงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักระยะหนึ่งในการพัฒนา ซึ่งการร่วมมือกับ ANGEL ซึ่งมีความพร้อมทั้งในด้านของประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีก และฐานการผลิต รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมระบบกรองน้ำที่ ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เราจึงคาดหวังว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการให้กับกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงผ่านการทำตลาดค้าปลีก และโมเดิร์นเทรดให้แพร่หลายมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น สามารถต่อยอดการเติบโตให้กับ FTI ได้ในอนาคต” ดร.วิกร กล่าว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 422.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 399.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21.62 ล้านบาท

Back to top button