“เจ้าสัวธนินท์” โชว์วิสัยทัศน์งาน Boao Forum for Asia จัดครั้งแรกในไทย  

ผู้นำด้านเศรษฐกิจระดับภูมิภาคเอเชีย ตบเท้าขึ้นเวทีประชุมสุดยอด “Boao Forum for Asia” ด้าน ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือซีพี ร่วมแสดงวิสัยทัศน์หนุนปฏิรูปเกษตรด้วยเอไอ-พลังงานสะอาด-พัฒนาคน มุ่งสร้างความร่วมมือยกระดับเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2567 สาธารณรัฐประชาชนจีนและพันธมิตร 26 ประเทศ จัดประชุม Boao Forum for Asia (BFA) Bangkok Roundtable ที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการจัดประชุมครั้งแรกนอกประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Future of the World: from the Perspective of Asia” หรือ “อนาคตของโลก: มุมมองจากเอเชีย” เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการผนึกกำลังและการพัฒนาร่วมกันมากระหว่างประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย

โดยการประชุมครั้งสำคัญนี้มีนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวเปิดงานด้วยการอ่านสารแสดงความยินดีจากท่าน หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน พร้อมด้วยนายบัน คีมูน ประธาน BFA และอดีตเลขาธิการสหประชาชาติ นายจาง จุน เลขาธิการ  BFA  นายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย พร้อมทั้งผู้นำระดับสูงจากภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิชาการ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียรวมถึงประเทศไทยเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างคับคั่ง ในการเร่งหาทางออกและโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาครับความท้าทายโลก

สำหรับบุคคลสำคัญจากประเทศไทยที่ได้รับเชิญร่วมเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นครั้งสำคัญนี้มีอาทิ  นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย สมาชิกสภาที่ปรึกษาของ BFA อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย, นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์, นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ, นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการแห่งประเทศไทย, ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาจีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฯลฯ

ส่วนบุคคลสำคัญในต่างประเทศที่เข้าร่วมเวที BFA ที่ประเทศไทยมี อาทิ นายโวลคาน บอซเคียร์ อดีตประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 75, นายมาร์ตี้ นาตาเลกาวา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย, นายออง ที เกียต อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รัฐสภาของมาเลเซีย และ นายโบลัต นูร์กาลีเยฟ ประธานคณะกรรมการ สถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐคาซัคสถาน เป็นต้น

โดยการประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ซึ่งได้กล่าวเปิดงานด้วยการอ่านสารแสดงความยินดีจาก  ท่านหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ขณะที่นายบัน คีมูน ประธาน Boao Forum for Asia และอดีตเลขาธิการสหประชาชาติ ได้ร่วมกล่าวสรุปปิดการประชุม

ขณะที่นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับเชิญร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นในหัวข้อ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน: สู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของเอเชีย” โดยนายธนินท์ได้เน้นถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในภาคการเกษตรและการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน

นอกจากนี้นายธนินท์ ยังกล่าวถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรและเทคโนโลยี ซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในเอเชีย โดยนายธนินท์มองว่า กุญแจสำคัญที่จะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียคือ ต้องมุ่งเน้น “พัฒนาคน” เพราะต่อให้มีเทคโนโลยีที่ดีแค่ไหน ก็ต้องใช้คนในการขับเคลื่อนซึ่งเอเชียมีประชากรมากกว่า 4 พันล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพในการพัฒนาอีกมาก

ดังนั้น ควรมีการกำหนดนโยบายต่าง ๆ ในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการ และคนที่มีความสามารถตลอดจนต้องดึงคนเก่งจากทั่วโลกมาลงทุนทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในตอนนี้โลกจะเผชิญความท้าทายหลายด้าน แต่ทั้งนี้เชื่อว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน

สำหรับ Boao Forum for Asia (BFA) เป็นการประชุมระหว่างประเทศที่จัดขึ้นโดยมีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นแกนนำ พร้อมด้วยความร่วมมือของ 26 ประเทศในเอเชียและออสเตรเลีย โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Boao มณฑลไห่หนาน ประเทศจีน และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ซึ่งการประชุมนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างประเทศในเอเชียและทั่วโลก โดยเป็นเวทีสำหรับผู้นำทางการเมือง ธุรกิจ และนักวิชาการในการหารือเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในบริบทของเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ เวทีดังกล่าวได้รับการขนานนามว่าเป็น “Davos of the East” เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับ World Economic Forum (WEF) ที่จัดขึ้นในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ BFA มุ่งเน้นเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเอเชียและการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก

สำหรับประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง BFA เพื่อเป็นเวทีสำหรับผู้นำระดับสูงทั้งจากภาครัฐบาล ภาคธุรกิจและภาควิชาการในการหารือและแสดงวิสัยทัศน์ ในเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญในภูมิภาคเอเชียและของโลก ซึ่งในปีนี้มุ่งเน้นประเด็นในการส่งเสริมให้ภูมิภาคเอเชียบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการยกระดับเศรษฐกิจให้มีการความพร้อมในการแข่งขันระดับโลก

Back to top button